ปัจจุบันมีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังหลายๆ บริษัท ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กางเกง กระโปรง เข็มขัด หมวก กระเป๋า รองเท้า ถุงเท้า เครื่องประดับ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสัตว์ บางครั้งถึงกับเป็นสินค้าที่ทำมาจากสัตว์ที่หายาก หรือเป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธ์
อย่างนี้แล้ว.. ท่านคิดว่าบริษัทที่ทำแบบนี้ ขายสินค้า หรือว่า ค้าชีวิตสัตว์ กันแน่?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ซื้อของมียี่ห้อทำร้ายสัตว์ป่าจริงเปล่าน้า....
ตอบลบการเลือกซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ของคนในประเทศไทยนั้นมักทำการเลือกซื้อตามกระแสความนิยมจากสื่อต่าง ๆ เช่น ดารา นักร้อง นักแสดงฯ ทำให้วัยรุ่นชาวไทยต่างพากันเลียนแบบสิ่งที่เกินตัว เกินความพอดี เช่น เรียนมัธยมต้นแต่ขับรถยนต์ยี่ห้อแพง ๆ มาเรียน หรือการแต่งหน้าแต่งตัวมาเรียนเกินวัยที่จะทำในช่วงวัยเรียน กาารเลือกซื้อสินค้าก็เหมือนกันชอบซื้อตามกระแส ไม่เคยลองนึกว่าก่อนที่จะได้มาซึ่งกระเป๋าหนึ่งใบผ่านการสูญเสียอะไรมาบ้าง เช่น กระเป๋าหนังจระเข้ราคาแพง ๆ ก็ต้องฆ่าจระเข้อย่างน้อยหนึ่งตัว น่าสงสารพวกมันจะตาย ผ้าพันคอขนมิ้งก็ต้องออกไปล่าฆ่ามิ้งที่นับวันยิ่งจะหาดูยากมาทำ
ปล.คนที่เคยใช้จะรู้ไม่ว่าฆ่าสัตว์ที่นำมาทำตายไปแล้วกี่ตัว
ของ Brandname.. ขายสินค้า หรือ ค้าชีวิตสัตว์?
ตอบลบสำหรับผมคิดว่า การที่ผู้ผลิตได้นำหนังสัตว์ขนสัตว์สงวนหรือสัตว์ทั่วๆไปมาทำเป็นเครื่องประดับ หรือของใช้นั้นเป็นการทำร้ายชีวิตสัตว์ ซึ่งเป็นการที่ทรมานสัตว์มากเพราะเราได้เห็นความสวยงามของหนังสัตว์หรือขนสัตว์แต่่เราลืมนึกไปว่า ชีวิตสัตว์หนึ่งชีวิตกว่าจะโตมาได้ต้องใช้เวลานานมาก และเป็นค่านิยมที่ผิด
Mawar sec 1
ตอบลบการนำขนสัตว์ หรือ หนังสัตว์ มาทำกระเป๋า รองเท้า ผ้าพันคอ เครื่องนุ่งห่ม เป็นการนำส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิตมาทำ หากเป็นการฆ่าเพื่อนำส่วนประกอบเหล่านี้มาทำเครื่องประดับเหมือนเป็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตซึ่งเป็นการผิดศิลเป็นอย่างมากแต่หากสัตว์พวกนี้ได้เสียชีวิตไปเองโดยไม่มีการฆ่าก็จะเป็นการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุดเพราะหนังสัตว์ หรือขนสัตว์เกิดขึ้นจากธรรมชาติไม่มีการปรุงแต่ง แล้วแต่วิจารณญาณของผู้ซื้อควรสอบถามให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจซื้อ
การที่คนเราใช้ของแบรนด์เนมเพื่อ ยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นหรือว่าเป็นคนที่มีระดับต้องใช่ของที่มีราคา มีแบรนด์ แต่มิได้หมายความว่าจะไม่ทำให้อีกหลายๆชิวิตต้องตาย เพื่อแลกกับเงินที่จะได้มาของผู้ขายและแลกกับความหรูหราที่ได้ใช้ ดังนั้นคนที่จะใช้ของแบรนด์เนมก็ต้องดูให้ดีๆก่อนนะว่าสินค้าทำจากอะไร แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคนทำสินค้าจากหนังสัตว์ ขนสัตว์ หรือหาเงินจากชิวิตสัตว์รวยจริงแต่บาปนะ และผิดกฎหมายด้วยนะ
ตอบลบของ brandname เราก็จะรู้จักกันดีในเฉพาะบ้างกลุ่มที่นิยมใช้ของราคาแพง ไม่ใช้แค่การใช้หนังสักเคราะห์หรือใช้วัสดุต่างๆ ที่ทำขึ้นมาเองนั้น
ตอบลบแต่ก็มี สินค้าbrandname บ้างกลุ่มที่นิยมใช้หนังสัตว์ ขนสัตว์ หรือส่วนต่างๆ ที่ใช้สัตวว์หรือสิ่งมีชีวิตเพื่อนร่วมโลกมาทำเป็นกระเป๋า เข้มขัด รองเท้า
เครื่องประดับ ต่างๆ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจด้วยบ้างธุรกิจใช้หนังสัตว์ที่ถูกกฏหมายหรือมีการเพราะพันธุ์เองโดยไม่ส่งผมกระทบกับวงจรชีวิตสัตว์แต่บ้างธุรกิจที่ทำผิดกฏหมายนำสัวต์สงวนหรือสัวต์ที่ใกล้จะสุญพันธ์มาทำเป็นสินค้าต่างๆ มันก็ขึ้นอยุ่กะความคิดหรือผลประโยชน์แต่ละธุรกิจว่ามุ่งผมประโยชน์อะไร บ้างธุรกิจก็ทำเงินตราเข้ามาหมุนเวียนภายในประเทศ
แต่งอะไรจะเกิดขึ้นมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ปริโภคความต้องการถ้าเราไม่สนับสนุนสินค้าเหล่านี้การค้าขายหนังสัตว์หรือฆ่าสัตว์มันก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ธุรกิจที่พวกคุณอาจจะรุ้จักก้คือการเลี้ยงจระเข้เพื่อการธุรกิจเป็นธุรกิจที่ไปได้สวยแต่ก้ผิดศิลธรรมอยู่ แต่เจ้าของธุรกิจก็มีการเพราะเลี้ยงไม่ได้จับมาจากเขตหวงห้ามหรือในป่ามีการทดแทนแต่ธุรกิจนี้ทำให้มีเงินหมุ่นเวียนเข้ามาในประเทศมากทีเดียว แต่ไม่ว่าจะทำให้มีเงินหมุ่นเวียนแค่ไหนก็มีการใช้สัตว์หรือเพื่อนร่วมโลกมาประกอบธุรกิจ
ที่จริงก็มีหลายมุมมอง เช่น ถ้าหากมองในแง่มุมของความเป็นจริงแล้วไม่น่าจะนำพวกหนังสัตว์มาทำเป็นกระเป๋าเพราะว่ามันเป็นการส่งเสริมที่ไม่ค่อยดี เพราะว่าเอาสัตว์มาเพื่อนำมาสนองความต้องการของมนุษย์คิดว่าไม่ควรทำ แต่หากว่ามองในเรื่องของการนำเอาสัตว์ที่ตายแล้วมาแปลสภาพโดยนำหนังสัตว์มาเป็นประโยชน์ ดีกว่าปล่อยให้มันตายโดยสูญเปล่าก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นการประยุกต์อีกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าการนำเอาสัตว์ที่เป็นๆ หรือมีชีวิตมาทำก็คิดว่าเป็นการทรมานสัตว์
ตอบลบแต่ในความเป็นจริงแล้วก็มีอีกหลายมุมมอง หลายแง่คิด มันอยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละบุคคลที่ว่าจะสำนึกอย่างไรในการนำเอาชีวิตสัตว์เหล่านั่นมาตอบสนองความต้องการมนุษย์
PenNueng MK.07
ตอบลบทุกชีวิตล้วนแล้วแต่มีศักดิ์ศรีและคุณค่ามากมายอยู่ในตัว ทุกชีวิตต้องดิ้นรนเพื่อจะให้ตัวเองอยู่รอด ปลอดภัย และดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุข เรื่องการเอาหนังสัตว์มาใช้เป็นเครื่องนุงห่มและเครื่องประดับมีมาตั้งแต่สมัยยุคพระเจ้าเหา ยุคน้ำแข็ง ยุกไดโดนเสาแล้วมั๊งครับอาจจะเรียกว่าเป็นเครื่องนุงห่มชนิดแรกของมนุษย์ก่อนจะรู้จักทอผ้า อย่ามามนุษย์ฉลาดล้ำเริดพระเจ้าสร้างมารู้จักทอผ้าเลยและเรื่องการใช้หนังสัตว์ ขนสัตว์นอกจากเรื่องความสวยงามประโยชน์ใช้สอย ความหรูหราความเป็นที่นิยมแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ถูกต่อต้านจากคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยอีกด้วยค่ะอย่างเสมอมา เรื่องแบบนี้มันนาๆจิตตังครับเถียงกันไปก็เท่านั้นส่วนตัวมองว่ามันคงเป็นสมดุลของสังคมมนุษย์ที่ชอบเบียดเบียบสิ่งมีชีวิตอื่นๆเป็นปกติ ดังนั้นมีคนใช้ก็ต้องมีคนออกมาต่อต้านบ้าง วันนี้ไม่ได้จะให้มาจุดประเด็นเถียงกันเรื่องควรหรือไม่ควรใช้ครับเพราะมันเสียเวลาอย่างที่บอก ทุกชีวิตล้วนแล้วแต่รักชีวิตของมัน แล้วคุณละรักชีวิตของคุณหรือเปล่าครับ
เอารูปภาพมาให้ดูเพือเป็นการเตือนสติ (คลิกไปดูรูปภาพเพิ่มเติมครับ)
http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=42269.0
ปล. ขอบคุณรูปภาพจาก thailandsusu.com คับ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขึ้นชื่อว่าสินค้า Brandname ที่เป็นที่นิยมในสังคมไฮโซและโลโซทั้งหลายที่มีทั้งของแท้ของก็อปมากมายมีทั้งที่ทำจากใยสังเคาระห์และหนังสัตว์แท้เช่น หนังจรเข้ หนังเสือ หนังงู เป็นต้น ซึ่งของ Brandname ที่ทำจากหนังสัตว์เหล่านี้ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่น่าชื่นชมอยู่แล้วเพราะเป็นการฆ่าทำลายสัตว์โดยใช่เหตุเป็นการตอบสนองความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่เห็นแก่ได้มากเกินไป
ตอบลบในเมื่อกล่าวถึงสินค้า Brandname ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้หนังสัตว์แท้ทำก็ได้อาจทำจากใยสังเคราะ สิ่งที่ว่าเป็น Brandname นั้นขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและคุณภาพของ Brand นั้นๆต่างหาง และสิ่งที่แพงก็คือ Brand หรือตราสินค้าที่มีชื่อเสียงหลากหลายบวกกับคุณภาพของสินค้านั้นเอง หากมองถึงหนังสัตว์ที่ใช้ทำสินค้าได้ ในปัจจุบันหนังปลานิลก็สามารถนำมาทำเป็นสินค้าได้เช่นกัน ซึ่งมีความเหนียวแข็งแรงทนทานและยังไม่ทำลายสัตว์สงวนอีกด้วย แต่ยังไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มของ Brand ดังๆ ที่ยังไม่คิดจะนำไปผลิดเป็นสินค้าต่างๆ เลยไม่เป็นที่นิยม หากจะใช้ของ Brandname เราก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงสินค้าที่ทำจากหนังสัตว์สงวน ควรมองสินค้าที่มีคุณภาพและ Brand ของสินค้าดีกว่าคับ
บริษัทที่ผลิตสินค้า Brandname เป็นการค้าชีวิตสัตว์ชัดๆคนเราถ้าจะทำตัวเองให้ดูดีไม่จำเป็นต้องใช้ของ Brandname การใช้ของ Brandnameเป็น
ตอบลบการฆ่าสัตว์ทางอ้อมทั้งที่สัตว์ไม่รู้เรื่องอะไรแต่ต้องมาตายเพราะความอยากโดดเด่น ความโก้หรู ใครทีเป็นไฮโซไม่ใช่แต่เงินซื้ออะไรก็ได้โดยไม่เห็นความเดือดร้อนของคนอื่นก็เป็นคนที่เห็นแก่ตัว ของ Brandnameเป็นแค่วัตถุนิยมเท่านั้น
ของ Brand name ที่มีราคาแพงส่วนใหญ่จะทำมาจาก หนังสัตว์ หรือขนสัตว์ทั้งสิ้น และจะต้องฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมาก เพื่อนำหนัง และขน ของมันมาแปรรูปเป็นสินค้าชนิดต่างๆ มากมาย เช่น กระเป๋า เข็มขัด เสื้อ กางเกง กระโปรง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ได้รับความนิยม ของ Brand name ก็มีหลายอย่าง หลายชนิด ไม่ใช่เฉพาะแต่ที่ทำจามสัตว์เท่านั้น แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ได้ทำจากสัตว์ด้วยเหมือนกัน จึงมีทั้งการขายสินค้าด้วย และการค้าชีวิตสัตว์
ตอบลบการผลิตสินค้าแบรนด์เนมในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเบียดเบียนชีวิตของสัตว์อีกต่อไป ซึ่งสามารถใช้นวัตกรรมที่มนุษย์คิดค้นมาทำหนังสังเคราะห์แทนการใช้หนังสัตว์แท้ ๆ เมื่อผลิตออกมาแล้วมีคุณภาพและลักษณะใกล้เคียงกับหนังสัตว์แท้ ๆ ได้ และอีกประการหนึ่งสินค้าแบรนด์เนมที่มีคุณภาพ ราคาแพง และเป็นที่นิยมนั้นไม่จำเป็นต้องทำมาจากหนังสัตว์เสมอไป อาจทำมาจากเส้นใยธรรมชาติหรือสิ่งทอต่าง ๆ ก็สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ขึ้นอยู่กับการออกแบบสินค้าของแบรนด์นั้น ๆ ว่าจะออกแบบมาถูกใจลูกค้าแค่ไหน เหมาะสมกับความนิยมและความต้องการหรือไม่เท่านั้นเอง ซึ่งถึงแม้ว่าสินค้านั้นจะทำมาจากหนังสัตว์ชั้นดีก็ตามแต่หากการออกแบบไม่ได้รับความนิยมก็ไม่สามารถขายได้อยู่ดี และถ้าหากคิดอีกแง่มุมหนึ่งสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงนั้นอาจจะมาจากมูลค่าของชีวิตสัตว์มากกว่าคุณค่าของสินค้านั้นก็เป็นได้
ตอบลบการทรมาณสัตว์แบบนี้ทำเป็นเรื่องปกติ แต่ประเทศที่เจริญแล้วก็มีให้เห็น เช่นการฆ่าลูกแมวน้ำเพื่อถลกหนังที่มีขนขาวๆ ปุยๆ นุ่มๆ ไปทำเสื้อ ทำกันมากในแคนาดา นอกจากแรคคูน ยังมีหมา แมว จิ้งจอก กระต่าย นาก บีเวอร์ เสือ แมวป่า ฯลฯ สัตว์มีขนเหล่านี้ล้วนโดนล่าถลกหนังกันทั้งนั้น เพื่อมาเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับให้กับ "เรา" ฉันเองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า กว่าจะได้ขนเฟอร์มามันต้องแลกมาด้วย ความทรมาณอย่างแสนสาหัสของสัตว์ต่างๆ ขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าคนเราจะใจร้ายขนาดที่ถลกหนังมันทั้งเป็น ... จำเป็นต้องทำขนาดนั้นด้วยเหรอ?
ตอบลบถึงแม้ว่าประเทศไทยจะร้อน แต่เวลาไปเที่ยวที่หนาวๆ ก็ต้องใส่เสื้อกันหนาวอยู่ดี ช่วยกัน ไม่ซื้อเสื้อที่มีขนสัตว์แท้ๆ ประดับ เพราะไอ้เสื้อที่ขายๆ กันในไทยส่วนใหญ่ก็มาจากจีนนั่นแหละ (เสื้อดังๆ แบรนด์นอก มันก็ผลิตในจีนอยู่ดี หรือไม่ก็ซื้อเฟอร์สวยๆ ถูกๆ มาจากจีนอีกทีนึง) ฉันเขื่อว่าถ้าทุกคนรู้ ทุกคนประณาม และไม่สนับสนุนสินค้าเฟอร์ จะช่วยชีวิตสัตว์น่าสงสารเหล่านี้ได้
คำว่าค้าชีวิตสัตว์คงเป็นคำที่คุ้นหูในหมู่นักไฮโซทั้งหลายที่ชอบขนนุ่ม ๆ หรือหนังแท้ ๆ จึงทำให้เกิดการค้าหรือบริษัทที่ผลิตสินค้าไทยใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์มาเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะหนังของสัตว์ ซึ่งเป็นที่นิยมมาก จึงเกิดเป็นธุรกิจที่ทำเงินให้กับผู้ค้ามากมาย แต่ในทางตรงกันข้ามกับเป็นการเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายที่จะยอมเสียสละหนังสวย ๆ เพื่อมนุษย์ผู้หลงไหลเพื่อให้ได้มาเป็นของตนโดยไม่สนใจเลย บริษัทที่ผลิตมาจำหน่ายและผู้บริโภคที่ซื้อยังมีจิตสำนึกอยู่รึป่าว มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นดีนักเหรอ ใส่เสื้อผ้าที่เป็นขนสัตว์แล้วจะเหาะได้เหรอ ประเด็นสำคัญ คือ เสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์มันสวย ดูดี ไฮโซ แล้วคุณต้องเสียเงินเท่าไหร่เพื่อให้ได้มันมา เพื่อแลกกับการฆ่าชีวิตอีกนับหลายชีวิตของสัตว์ คุณลองคิดดูคุณยังรักตัวคุณสัตว์ก็รักชีวิตมันเหมือนกัน ถ้ามีใครเอาหนังของคุณไปทบ้างคุณจะยอมไหม การค้าหรือธุรกิจที่เกิดขึ้นเกิดจากความต้องการของมนุษย์ ถ้ามนุษย์ไม่ต้องการและไขว่คว้ามันก็จะไม่มีธุรกิจที่เบียดเบียนชีวิตเช่น
ตอบลบคุณลองคิดใครเป็นสาเหตุ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำสิ่งใดไว้จะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้นแน่นอน ช้าเร็วเท่านั้นจะรู้รึไม่ก็ตามว่าดีหรือชั่ว เมื่อได้ทำไปแล้ว ต้องได้รับผลของสิ่งที่ทำไว้ เหมือนกฏหมายเมื่อใครได้ทำผิด ไม่สามารถอาจอ้างได้ ว่าไม่รู้ เพียงแต่กฏหมายบัญญัติข้อห้ามซะส่วนมากแต่เมื่อได้รับผลกรรม อาจนึกไม่ออกว่า ได้ทำสิ่งใดไว้ จึงต้องมารับผลแบบนี้กระเป๋าเสื้อกระเป๋ากางเกง ก็เก๋พอใจแล้ว จะหิ้วจะหอบอะไรกันหนักหนา สมัยก่อนถุงกระดาษใบเดียว ก็ไปได้ไกลถึง ก .ท .ม แหมสมัยนี้ ต้องหนังสัตว์ เสื้อหนาวก็ขนสัตว์ ผ้านวมก็ขนนก
ตอบลบ“อยากให้ทุกคนร่วมกันประนาม
ไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่สนับสนุนสินค้าขนสัตว์ครับ
ขอให้สัตว์ป่าทั้งหลายที่ถูกกระทำ จงหลับให้สบาย
ไม่ว่าชาติหน้า หรือชาติไหนๆ
ขออย่าได้เจ็บปวด ทุรนทุราย เหมือนชาตินี้เลย”
ทุกวันนี้แฟชั่นมากมายล้วนแล้วแต่ผลิตออกมาแข่งขันกันมากขึ้นทุกวันจน บางคนเห็นแก่ได้ เห็นแก่เงิน เห็นของสวยๆงามๆจนลืมนึกไปว่าเบื้องหลังของทั้งหมดนี้เป็นอย่างไรบ้าง สัตว์ก้อเป็นสิ่งมีชีวิต มีหัวใจ เราควรที่จะอนุรักษ์ไว้ โดยเฉพาะสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธ์ ไม่ควรที่จะนำมาค้าขาย มาทำลายแบบนี้ เป็นการทรมานสัตว์ และยังเป็นการทำผิดกฎหมายด้วย สินค้า Brandname ไม่จำเป็นต้องทำลายสัตว์หรือทำมาจากสัตว์ ยังมีอีกหลายอย่างที่สามารถนำมาทำสินค้า Brandname ได้โดยไม่ทำลายสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลก
ตอบลบกรรณิการ์ เครือเทพ
ตอบลบสินค้า Brandname ขายสินค้า หรือ ค้าสัตว์
สินค้า Brandname ใครๆๆ ก็ต้องการจับจองเป็นเจ้าของ เพราะจะทำให้เป็นคนที่ดูดี มีรสนิยม หรูหรา และได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วไป แต่คงจะไม่มีใครรู้หรอกว่า....? ของที่จะนำมาผลิตเป็นสินค้า แบรนด์เนมนั้น นอกจากจะขายเป็นสินค้าได้แล้ว ยังเป็นการค้าสัตว์ตามมาด้วย ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและชีวิตสัตว์อีกหลายร้อยชีวิตที่ต้องถูกฆ่าเพื่อจะนำมาผลิตเป็นสินค้าแบรนด์เนม
ในความคิดของดิฉันมองว่าสินค้าแบรนด์เนมเป็นการค้าสัตว์มากกว่าการขายสินค้า เพราะสินค้าแบรนด์เนมมีราคาแพง และคนก็คิดที่จะเลี้ยงสัตว์หรือล่าสัตว์ เพื่อที่จะได้นำมาขายให้กับผู้ผลิตสินค้า เพราะจะได้ราคาสูง ทำให้เกิดรายได้สูงขึ้นตาม โดยที่ไม่นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา นั่นก็คือ ธรรมชาติถูกทำลายและสัตว์ก็สูญพันธุ์ ถือได้ว่าเป็นผลที่เกิดจากความยากได้ยากมีของคนที่ไม่นึกถึงสังคม
ดิฉันจึงขอฝากให้ทุกคนว่าหากจะใช้สินค้าแบรนด์เนมก็ควรที่จะเลือกสินค้าที่ไม่เป็นการทำลายธรรมชาติหรือสัตว์ เพราะนั่นก็อาจจะทำให้คุณดูดี และมีรสนิยมโดยที่ไม่เอาเปรียบสังคมได้
ของแบรนด์เนม ขายสินค้า หรือค้าชีวิตสัตว์
ตอบลบสำหรับตัวดิฉันแล้ว ดิฉันไม่ขอสนับสนุนการซื้อสินค้าหนังสัตว์เลยคะ
ลำพังตัวดิฉันเองก็เป็นคนไม่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอยู่แล้ว
ถึงแม้จะมีข่าวออกมาว่าทำเพื่ออุตสาหกรรมก็เถอะ
ดิฉันว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างของคนคิดบาป..
ยังไงแล้วก็ต้องฆ่าพวกมันอยู่ดี
ลองคิดดูนะคะว่าพวกมันไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นสินค้าซะหน่อย
ฝากบอกทุกๆคนนะคะว่า ถ้าจะซื้อสินค้าอะไรโปรดเถอะคะ...คิดถึงพวกมันด้วย
บาปนะคะ..ขอบอก
ถ้ากล่าวถึงของ Brand name ทุกคนจะคิดว่าเป็นสิ่งที่มีราคาแพง สวย หรู โก้เก๋ มีรสนิยมที่ดูดีแต่คนเรามักจะลืมไปว่า ของ Brand name แต่ละชิ้นนั้นเป็นการฆ่าชีวิตสัตว์เพื่อนำมาผลิตเป็นสินค้าให้มนุษย์ได้ใช้แต่มนุษย์หรือคนที่ใช้ของที่มีความหรูหราเท่ากับเป็นการทำบาปเพราะของทุกอย่างได้จากชีวิตสัตว์เพื่อแรกกับความหรูหราของมนุษย์
ตอบลบสินค้า Brandname ขายสินค้า หรือ ค้าสัตว์
ตอบลบดิฉันขอไม่สนับสนุนสินค้า Brandname ที่ทำมากหนังสัตว์ค่ะ
เพราะ ในแต่ละปีปริมาณและมูลค่าการค้า สัตว์ป่า และผลิตภัณฑ์
จากสัตว์ป่าทั่วโลกมีจำนวนมากมาย ในจำนวนนี้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมกับจำนวนสัตว์ป่าและพืชป่าหลายชนิดที่อยู่ในธรรมชาติทั่วโลก นั่นคือ บางชนิดใกล้สูญพันธุ์ บางชนิดหายาก บางชนิดถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนประชากรในธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว อันที่จริงพืชป่าและสัตว์ป่าเป็นของมีค่าที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทนในระบบธรรมชาติของโลก และควรคุ้มครองไว้เพื่อประโยชน์ของคนในรุ่นปัจจุบันและคนรุ่นต่อไป
เราควรตระหนักถึงคุณค่าของสัตว์ป่าและพืชป่ามากกว่าที่จะมองถึงความงามและเงินที่ได้มาจากการค้าชีวิตนะค่ะ
ขึ้นชื่อว่าสินค้าBrandnameก็จะเป็นสินค้าที่มีราคาสูงทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า ผ้าพันคอ แต่สินค้าที่ดูว่าจะเป็นการทรมารสัตว์มากที่สุดก็จะเป็นกระเป๋า รองเท้าที่ทำจากหนังสัตว์ไม่ว่าจะเป็นหนังจระเข้ หรือหนังงู ถึงแม้ว่ามันถูกเลี้ยงมาเพื่อทำสิ่งของพวกนี้ก็ตาม บางคนอาจจะคิดว่าถือกระเป๋าที่ทำจากหนังสัตว์ทำให้หรูหราและดูดีขึ้น แต่สำหรับดิฉันคิดว่ามันไม่ดูดีขึ้นเลย สงสารพวกมันก็มีชีวิตเหมือนกับคนเรา ไม่ควรที่จะส่งเสริมอีกทั้งยังราคาแพง
ตอบลบปล.คนที่ใช้อยู่ก็ลองคิดดูดีๆนะคะก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
ถ้าพูดถึงสินค้า Brand Naem มักจะคิดถึงสินค้าที่มีราคาแพง นำสมัย สวยงาม ซึ่งสินค้าประเภทนี้มักจะผลิตมาเพื่อเจาะกลุมลูกค้าระดับบนที่มีกำลังการซื้อสูง แต่ใครจะรู้ว่าสินค้า Brand Name ที่คนส่วนมากนำมาประดับเพื่อความวยงามนั้นได้ฆ่าชีวิตสัตว์ตายไปมากมายเพื่อที่จะนำมาผลิตเป็นเครื่องประดับให้คนได้สวมใส่กันสวยงามอย่างในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะประเทศไทยจะมีกฎหมายออกมาควบคุมไม่ให้ฆ่าและทำร้ายสัตว์แต่ก็ยังมีบุคคลบางกลุ่มที่ยังละเมิดกฎหมายอยู่โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและบาปที่ได้กระทำไปเลย
ตอบลบเพ็ญสิริ
ตอบลบของ Brandname อาจเป็นของที่จำเป็นของผู้มีอันจะกินหลายๆ คน เพื่อให้เป็นสิ่งที่ส่งเสริมบารมี บ่งบอกถึงสถานการเงินหรือสร้างเสริมชื่อเสียงในวงสังคม แต่ถ้ามองว่าเป็นการเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่นแล้ว ของBrandname ก็ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจเท่าไหร่ที่ได้เป็นเจ้าของ เพราะต้องทำลายชีวิตหลายๆ ชีวิตเพื่อความหรูหร่า หรือแสดงบารมีของคนไม่กี่คนที่มีปัญญาจะซื้อ ดังนั้นเราควรหยุดพฤติกรรมความจำเป็นเหล่านั้นเพื่อลดการค้าชีวิตสัตว์
ขัติยา no.11
ตอบลบการที่เรานำส่วนประกอบต่าง ๆ ของสัตว์มาทำเป็นของใช้หรือเครื่องประดับคิดว่าเป็นการ ฆ่าชีวิตสัตว์หรือไม่ ?
ก่อนอื่นต้องแยกออกเป็นสองอย่างซะก่อนคือ
1.การฆ่าเพื่อนำส่วนประกอบต่าง ๆ มาเช่น ฆ่าเพื่อเอาขน หนัง หรือหัวกระโหลก เอามาทำเครื่องประดับคือฆ่าให้ตายเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนมา แบบนี้คือการฆ่าชีวิตสัตว์แน่นอนไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจอะไรก็ตาม ความรู้สึกก็คงแย่เมื่อได้รู้ว่ากว่าจะได้ของซักอย่างมาราคาแพงๆ เนี้ยมันต้องแลกด้วยชีวิต
2.อย่างที่สองคือการเอาชิ้นส่วนของมันมาแต่ ไม่ได้ฆ่า เช่นถ้าแค่นำขนแกะมาทำเสื้อขนสัตว์ ก็แค่ไปโกรนเอาขนของมันมาเท่านั้น ไม่นานขนมันก็งอกขึ้นมาใหม่ เป็นการใช้ประโยชน์จากสัตว์ให้คุ้มค่า ไม่ได้ไปฆ่าแกงมันมา หรือการที่สัตว์มันตายแล้ว โดยที่เราไม่ได้ฆ่ามัน จากนั้นเราก็เอาชิ้นส่วนต่าง ๆ ของมันมาใช้ประโยชน์เอามาทำให้เกิดเป็นมูลค่า ดีกว่าเอาไปฝังดินหรือเอาไปเผาทิ้ง แบบนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการฆ่าชีวิตสัตว์เพื่อธุรกิจ
มัลลิกา No.35
ตอบลบของ Brandname ขายสินค้า หรือว่า ค้าชีวิตสัตว์ กันแน่?
ของ Brandname ที่ว่ากันว่าเมื่อพกแล้วจะดูดี หรู มีระดับ แต่รู้หรือไม่ว่าของพวกนี้ต้องฆ่าสัตว์มาแล้วกี่ร้อยกี่พันตัว ซึ่งคนใช้ก็หารู้ไม่ คิดแต่ว่าใช้แล้วจะยกระดับฐานะตัวเองให้ดูดีไม่ตกยุคเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งถ้าหากมองในแง่ธุรกิจนั้นการขายของก็คือการขายสินค้าเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรให้กับผู้ค้าโดยสามารถทำให้ทุกสิ่งที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของสินค้าแล้วนำมาขายในตรายี่ห้อที่ตั้งราคาสูง โดยแลกกับชีวิตสัตว์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น แกะ จระเข้หรือสัตว์ต่างๆ ที่ต้องถูกนำมาฆ่าเพื่อเอาขน หรือชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบเป็นสินค้าสร้างกำไรให้กับผู้ค้าทั้งหลาย หลังจากนั้นก็นำมาขายให้กับลูกค้าๆ ก็สนใจซื้อกันอย่างทั่วหน้าโดยไม่ได้คำนึงถึงในสัจธรรมเลยว่าการฆ่าสัตว์ถือเป็นการผิดศีลร้ายแรงเช่นกัน
แต่ในปัจจุบันคนเรามองธุรกิจ มองความมักง่ายมากกว่าความถูกต้องทำให้เราต้องสูญเสียสัตว์หลากหลายชนิด ทำให้สัตว์หายากขึ้น อีกหน่อยเมื่อไม่มีสัตว์ไว้เป็นเครื่องมือในการหากินแล้วคนเหล่านี้จะหันไปค้าขายในแง่ที่ผิดอะไรอีก ท่านว่าจริงหรือไม่?
หยุดเถอะค่ะ หยุดทำร้ายและทำลายชีวิตสัตว์ เพื่อชีวิตเราและโลกของเราน่ะค่ะ
ปัจจุบันจะพบได้ว่าของแบรนด์เนมส่วนใหญ่จะทำจากหนังสัตว์
ตอบลบบางชิ้นอาจจะทำจากสัตว์สงวนด้วยซ้ำ ดังนั้นที่ถามว่าของแบรนด์เนมเป็นการค้าชีวิตจริงหรือไม่นั้น ในความคิดของดิฉันคิดว่ามันเป็นการทำธุรกิจมากกว่า เพราะบางครั้งบางทีเราอาจคิดว่ามันเป็นการค้าชีวิตสัตว์ ซึ่งธุรกิจประเภทนี้ส่วนใหญ่จะพบได้ว่าทำถูกกฏหมายถึงแม้ว่าจะทำจากหนังสัตว์ แต่บางที่เค้าก็เพาะเลี้ยงสัตว์เพื่อนำมาผลิตสินค้าประเภทแบรนด์เนม ไม่ได้ถึงกลับไปไล่ล่าจะสัตว์มาทำเองเลย ดังเช่นที่เห็นทั่วไปคือ การเลี้ยงจระเข้เพื่อนำหนังมาผลิตสินค้า นี่ถือว่าถูกตามหลักกฏหมายถึงแม้บุคคลทั่วไปคิดว่าผิดศีลธรรมก็ตาม
ของ Brandname ที่ว่าคุณรู้หรือไม่ว่าของพวกนี้ทำมาจากอะไร หนังสัตว์ทั้งนั้นนะ ต้องฆ่าสัตว์มาแล้วกี่ร้อยกี่พันตัวเพื่อที่ผลิตขึ้นให้พวกคุณใช้เพื่อนแสดงฐานะความมั่งมี หรือมีระดับ ซึ่งคนใช้ส่วนใหญ่ก็หารู้ไม่ คิดแต่ว่าใช้แล้วจะยกระดับฐานะตัวเองให้ดูดีไม่ตกยุคเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งถ้าหากมองในแง่ธุรกิจนั้นการขายของก็คือการขายสินค้าเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรให้กับผู้ค้าโดยสามารถทำให้ทุกสิ่งที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของสินค้าแล้วนำมาขายในตรายี่ห้อที่ตั้งราคาสูง โดยแลกกับชีวิตสัตว์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น แกะ จระเข้หรือสัตว์ต่างๆ ที่ต้องถูกนำมาฆ่าเพื่อเอาขน หรือชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบเป็นสินค้าสร้างกำไรให้กับผู้ค้าทั้งหลาย หลังจากนั้นก็นำมาขายให้กับลูกค้าๆ ก็สนใจซื้อกันอย่างทั่วหน้าโดยไม่ได้คำนึงถึงในสัจธรรมเลยว่าการฆ่าสัตว์ถือเป็นการผิดศีลร้ายแรงเช่นกัน
ตอบลบแต่ในปัจจุบันเรามองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มากกว่าเป็นการฆ่าสัตว์ เพราะว่านักธุรกิจส่วนใหญ่คิดอยู่เสมอว่ามันเป็นกรรมก็จริงแต่มันเป็นกรรมของสัตว์โลกที่เกิดมา เหมือนดังธุรกิจที่ว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
สินค้า Brandname เป็นสินค้าที่มีราคาสูง ซึ่งจะเจาะเฉพาะเป็นกลุ่ม หากว่าจะเป็นผู้บริโภคชั้นล่าง มาซื้อสินค้า Brandname คงเป็นไปได้ยากเป็นอย่างยิ่ง...สินค้า Brandname ถ้าจะอธิบายตามความเป็นจริงแล้วไม่ใช่มีเพียงแต่การนำหนังสัตว์หรือส่วนต่างๆของสิ่งมีชีวิตมาสร้างขึ้นเพื่อเป็นสินค้า แต่สินค้า Brandname ยังมีสินค้าที่ผลิตจากส่วนประกอบต่างๆที่ไม่ใช่ได้มาจากชีวิตสัตว์ ซึ่งการจะทำให้สินค้าแต่ละชิ้น แต่ละแบรนด์ มีชื่อเสียง และภาพลักษณ์ และเป็นที่น่าจดจำไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบที่มาจากการฆ่าสัตว์ นั่นเป็นเพราะว่าสินค้า Brandname ที่มีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ เกิดขึ้นมาได้อาจจะเกี่ยวเนื่องกับปัจจัยต่างๆ เช่น เจ้าของสินค้า presenter ที่ใช้ในการโฆษณาสินค้า หรือแม้กระทั่งคุณภาพของสินค้า...ซึ่งทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าจะเลือกซื้อสินค้าที่ทำจากอะไร วัตถุดิบมาจากอะไรเป็นส่วนใหญ่
ตอบลบจากที่มีบริษัทส่วนใหญ่ทำการผลิตสินค้าที่มีส่วนประกอบของสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งหากมองถึงตรงนี้แล้วถือว่าเป็นการทำผิดศีล 5 อย่างยิ่งและยังเป็นการทำลายการขยายพันธ์ของสัตว์ป่าหายากได้ อาจส่งผลกระทบที่ทำให้เกิดการสูญพันธ์ของสัตว์ป่าบางชนิด แต่ทั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการขายสินค้า แต่ถือว่าผิดจรรยาบรรณนักการตลาดเพราะถือว่าเป็นการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ โดยที่คำนึงแต่ผลประโยชน์ของตนเป็นส่วนใหญ่เพื่อที่จะมุ่งหากำไร โดยไม่มีการคำนึงถึงผลกระทบข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นตามมา
สินค้า Brand Name ขายสินค้าหรือค้าชีวิตสัตว์
ตอบลบสินค้า Brand Nameไม่ว่าจะเป็น Brand ใดหรือของประเทศใดก็ตามที่มีสินค้าประเภทเครื่องหนังนั้น ก็จะมีหลักการตลาดในการสนองความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ชิ้นส่วนของสัตว์ ยิ่งเป็นสัตว์ที่หายาก มีการผลิตน้อย ก็ยิ่งมีผู้ต้องการมากไม่ว่าจะราคาแพงเท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นไปตามหลักดีมานซับพลายของเศรษฐศาสตร์
หากไม่มีความต้องการของผู้บริโภคสินค้าเหล่านี้ก็ไม่มีทางที่จะผลิตออกมาเพื่อจำหน่าย เมื่อไม่การผลิตสินค้าเหล่านี้ สัตว์ก็จะไม่โดนฆ่าและไม่มีการล่าสัตว์ เมื่อสัตว์ไม่ลดจำนวนสมดุลของระบบนิเวศโลกก็จะไม่โดนทำลาย และความผิดปกติทางธรรมชาติก็จะไม่เกิดขึ้นอีกด้วย
การใช้สินค้าก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถช่วยในการรักษาสมดุลทางนิเวศโลกไว้ได้ สินค้า Brand Name จะขายสินค้าหรือค้าชีวิตสัตว์อยู่ที่ความต้องการของผู้บริโภคมากกว่า ตราบใดที่ยังมีความต้องการระบบทุนนิยมเหล่านี้ก็ยังจะสรรหาสิ่งเหล่านี้มาสนองความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ
สินค้าBrand Name ถ้าไม่ฆ่าสัตว์มาซะก่อนก็จะไม่เกิดสินค้าประเภทนี้ขึ้นในความคิดของดิฉันมันมีความคิดอยู่สองแง้ด้วยกันอย่างแรก คือ การค้าขายของพวกหัวสูงที่ต้องการเงินของพวกคนทีมีรสนิยมชอบของแพงและหนังสัตว์ทั้งหลายซื้อเพื่อไปประดับร่างกายและอวดโฉมนำเงินเข้าประเป๋าพวกแม่ค้า ส่วนอีกแง้เป็นการค้าชีวิตสัตว์ด้วยไม่เกิดการฆ่าไม่เกิดสินค้าประเภทหนังสัตว์ไปนำจำหน่าย ที่กล่าวมาด้านต้นดูจะเบียงเบนไปทางค้าชีวิตสัตว์ซะมากกว่าเพราะข่าวการฆ่าสัตว์ที่ผิดกฏหมายที่ยังทำการควบคุมไม่ได้ก็ยังมีอยู่มากมาย มันเป็นการสร้างรายได้ที่ผิดจริงๆค่ะ
ตอบลบสินค้าBrand Name เป็นที่รู้จักกันมากมายไม่ว่าวัยรุ่นจนไปถึงผู้ใหญ่ที่บางคนหลงความงามของมันจนถอนตัวไม่ขึ้นกระเป๋าBrand Nameนี้มีหลายอย่างมาก แต่ถ้าพูดถึงกระเป๋าที่ทำมาจากหนังสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นงู จรเข้ รวมไปถึงตัวเงินตัวทอง ฯลฯ ซึ่งเมื่อก่อนนี้สัตว์พวกนี้ถือเป็นสัตว์ที่น่ากลัว และน่ารังเกียจ แต่ในปัจจุบันพบว่าสัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ที่สามารถส้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรวมไปถึงกลุ่มชาวบ้านได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะราคาของมันแพงถึงแพงมากและยังสามารถทำรายได้ให้กับประเทศในแต่ละปีไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่าในทางกลับกันนั้นในธุรกิจแบบนี้ยังเป็นธุรกิจที่มีการคัดค้าน เพราะต้องฆ่าสัตว์ทำให้กลุ่มอนุรักษ์มองว่ามันเป็นการทำร้ายสัตว์ และก็บาป ในมุมมองของผูแสดงความคิดเห็นนี้มองเห็นว่าเป็นธุรกิจที่สามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นการทำผลิตภัณฑ์จากหนังสัตว์มิใช่เป็นการล่าสัตว์แล้วนำมาทำ แต่จะมีการเลี้ยง ดูแลรวมไปถึงการเพาะเลี้ยงให้เพิ่มจำนวนเพิ่มมากขึ้นไม่ให้สูญพันธุ์และยังทำให้ชาวบ้านในบริเวณนั้นมีอาชีพ มีรายได้ และยังทำลายโลกดีกว่าการใช่ผลิตภัณฑ์จากพลาสติก และนอกจากนั้นก็ยังมีอีกกลุ่มที่ชอบผลิตภัณฑ์จากหนังสัตว์ที่เป็นสัตว์ป่าสงวนกลุ่มบุคคลเหล่านี้น่าจะเป็นกลุ่มที่ประจาน แล้วจับปรับตามกฎหมายนี้คือคนที่บาปจริงๆ
ตอบลบเห็นหัวข้อแล้ว นึกสงสารสัตว์ตัวนั้นที่ถูกจับมาฆ่าแล้วโดนจับมาทำเป็น กระเป๋า ผ้าพันคอ เสื้อผ้า จริงๆ ไม่รู้ว่าคนที่จับมันมาคิดอะไรอยู่ ไม่มีจิตเมตตาบ้างรึไง คิดแต่จะเอาแต่ได้ เอาแต่เงิน ไม่คิดถึงจิตใจสัตว์บ้างเลย แต่จะทำยังไงได้ คนพวกนี้ ทำไปแล้ว พอถูกจับ ก็มีเส้นสายช่วยไว้ แจ้งความไปก็เท่านั้น กฎหมายก็ไม่เข้มแข็งพอ ทำอะไรพวกนี้ไม่ได้ น่าสงสารสัตว์จริงๆ สัตว์แต่ละตัวกว่าพ่อแม่มันจะเลี้ยงให้เติบโตมาก็แทบตาย คนเรามาฆ่ามันอย่างง่ายดาย ดังข่าวที่เห็นทั่วไป ลักลอบนำสัตว์ ชนิดนั่นเข้ามาอย่างง่าย โดยที่ไม่ได้ถูกจับ หรือตรวจสอบ จับพวกมันมาขังในกรง ทำได้ยังไง ? มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เห็นเมื่องนอกเข้าประท้วงกันจริงๆจัง แต่ในเมืองไทย ทำไรบ้างแค่ประท้วงอยู่ช่วงนึงแล้วก็เงียบหาย มันหมายความว่าอย่างไร ทุกวันนี้ก็ได้แต่รอว่ากฎหมายจะทำอะไรพวกคนพวกนี้ได้อย่างไรบ้าง !
ตอบลบนางสาวณัฐริกา คำหงษา รหัส 19 sec 1
ตอบลบสินค้าแบรนด์เนมเป็นสินค้าที่บุคคลส่วนมากรู้จักันก แต่สินค้าเหล่านี้จะรู้จักเป็นอย่างแพร่หลายในบุคคลที่มีฐานะดี มีอำนาจในการซื้อสินค้า เพื่อสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ตัวเองได้ แต่สินค้าแบรนด์เนมส่วนมากที่มีราคาแพงนั้น ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า เสื้อ กางเกง สินค้าเหล่านี้ล้วนแล้วผลิตมาจากสัตว์ทั้งนั้นซึ่งเป็นการทำร้ายสัตว์เป็นอย่างยิ่ง แม้บุคคลที่ผลิตจะรู้ว่าเป็นการทำร้ายสัตว์แต่บุคคลเหล่านั้นก็ไม่หยุดที่จะรบกวนสัตว์เหล่านั้น จึงเกิดผลกระทบให้สัตว์ในปัจจุบันนี้ถูกล่าเป็นจำนวนมากเพื่อจะมาสนองตอบต่อความต้องการของมนุษย์ แต่มนุษย์รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ทำมาจากชีวิตสัตว์แต่ก็ยังซื้อ ถ้ามนุษย์มองกลับมาว่าชีวิตใครใครก็รัก มันคงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าผู้ผลิตผลิตสินค้าด้วยวัตถุดิบที่ดี ไม่รบกวนสิ่งมีชีวิตก็คงดี และสิ่งสำคัญผู้บริโภคไม่ควรจะสนับสนุนโดยการซื้อสินค้าจากผู้ผลิต ที่ผลิตสินค้าด้วยชีวิตสัตว์"ชีวิตใคร ใครก็รัก"
การที่คนเรานำหนังสัตว์มาทำเครื่องของใช้เบรนด์เนม
ตอบลบอาทิ รอเท้า กระเป๋า อื่นๆ นั้นเป็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
คงเป็นแค่ส่วนหนึ่งเพราะเราไม่รู้ว่าหนังสัตว์ที่ทำเค้าได้อย่างไรมา
เค้าอาจจะมากับสัตว์ที่ตายแล้วก็ได้ แต่ส่วนของ งวงช้างที่คนนำมาตกแต่งบ้านนั่นแหละฆ่าสัตว์ มันเป็นของสัตว์แท้ๆยังเอามันมาเป็น
ของประดับบ้านอยู่ได้....หาอย่างอื่นมาประดับสิบ้านน่ะ
นางสาวมาริสา วงค์ยาเป็ง รหัส 36 sec. 1
ตอบลบการซื้อสินค้า Brandname นั้น บางคนอาจไม่นึกถึงว่ากว่าจะได้สินค้า ชิ้นนั้นชิ้นนี้ออกมาแต่ละชิ้น ทำให้สูญเสียสัตว์แต่ละชนิดไปมากเท่าใด แต่ไม่ใช่ว่าสินค้า Brandname นั้นจะทำมาจากสัตว์อย่างเดียว ไม่ใช่ว่าไม่ให้สนับสนุนสินค้า Brandname แต่การจะเลือกซื้อก็ควรจะดูว่าสินค้าชิ้นนั้นทำมาจากสัตว์ หรือไม่ เพราะถ้าเราไม่สนับสนุนสินค้า Brandname ที่ทำมาจากสัตว์ แล้วมาซื้อสินค้า Brandname แบบที่ไม่ทำมาจากสัตว์ จะทำให้ยอดขายของสินค้า Brandname ที่ทำมาจากสัตว์ลดลง และยอดของสินค้า Brandname ที่ไม่ทำมาจากสัว์เพิ่มขึ้น ก็มาสารถทำให้ผู้ผลิตลดการผลิตสินค้า Brandname ที่ทำมาจากสัตว์และ เพิ่มการผลิตสินค้า Brandname ที่ไม่ทำมาจากสัตว์เพิ่มขึ้น
จะทำให้การนำสัตว์มาทำสินค้า Brandname ลดลงจนไม่นำเอามาทำเลย จะช่วยให้ไม่มีการฆ่าสัตว์เยอะๆเกิดขึ้นอีก
แต่ในทางที่ดีเราก็ไม่ควรใช้สินค้า Brandname มากนักเพราะเป็นสินค้าที่แพงอยู่มากถึงมากที่สุด จะช่วยให้ประหยัดตังค์เราไปได้อีกเยอะ
สินค้าแบรนด์เนมขายสินค้าหรือค้าชีวิตสัตว์
ตอบลบลักษณะการบริโภคสินค้าของผู้บริโภค ณ ปัจจุบันมีหลากหลายประเภท เนื่องมาจากผู้บริโภคมีความรู้มากขึ้น ทำให้ฉลาดในการเลือกบริโภคสินค้าตาม lifestyle ของตน เพื่อบ่งบอกถึงรสนิยมของตนเองให้มากที่สุด
ดังนั้นตลาดปัจจุบันจึงมีการผลิตสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด จึงเป็นสาเหตุของการสร้างตราสินค้าให้กับสินค้านั้น ๆ ให้เป็นที่จดจำ และเป็นตัวบ่งบอกถึงรสนิยมของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งมีสินค้าหลายประเภทที่สร้างความโด่ดเด่นให้กับแบรนด์ของตน โดยการสร้างจุดขาย หรือสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ที่ตัวสินค้า คือการใช้หนังสัตว์จริงนำมาเป็นวัตถุดิบของสินค้า
หากจะกล่าวถึงการนำหนังสัตว์มาผลิตเป็นสินค้านั้น อาจกล่าวได้ว่าลักษณะแบบนี้มีการทำมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ เนื่องจากคนในยุดนั้นยังไม่รู้จักการผลิตเสื้อผ้าใช้เองจากวัตถุดิบธรรมชาติ(ฝ้าย) มีการนำเอาหนังสัตว์มาทำเป็นผ้าห่ม เครื่องนุ่งห่ม ประกอบกับสัตว์ในยุคนั้นมีเป็นจำนวนมาก จึงไม่มีปัญหาเหมือนกับปัจจุบัน คือ สัตว์ป่าบางประเภทเริ่มสูญพันธุ์ บางประเภทก็สูญพันธุ์ไปแล้ว
กลุ่มคนบางกลุ่มเล็งเห็นว่าสัตว์เหล่านั้นสำคัญต่อระบบนิเวศวิทยาเป็นอย่างมาก ตรงจุดนี้จึงมีการออกมาปกป้องสัตว์ป่าเหล่านั้น โดยมีการขึ้นทะเบียนสัตว์ป่าหายาก เพื่อปกป้องการรุกรานจากน้ำมือของผู้หาประโยชน์ทางธุรกิจ จากตรงจุดนี้เองทำให้มีกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่าอยู่ตลอดเวลา
จากกระแสดังกล่าวจึงเป็นโจทย์ให้นักธุรกิจหรือนักการตลาดหัวใสของสินค้าแบรนด์เนมหลายประเภทด้วยกัน สร้างกลยุทธ์ทางการตลาดมากมายเพื่อหักเหความสนใจจากความจริงที่ว่า “สินค้าเหล่านั้นได้ฆ่าชิวิตสัตว์มากมายกว่าจะได้สินค้าหนึ่งชิ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มเป้าหมายของตน” ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมเพื่อให้แบรนด์ของตนเป็นที่น่านับถือ ดูดีในสายตาของคนในสังคม
แต่ก็มีนักธุรกิจหรือนักการตลาดบางกลุ่มที่นำเอากระแสดังกล่าวมาสร้างความต่างให้กับตนเอง เปิดตลาดแนวใหม่ที่เรียกว่า “GREEN Markets” เป็นการผลิตสินค้าที่ไม่ทำลายธรรมชาติ หรือการผลิตสินค้าที่ไม่ทำมาจากสัตว์ เพื่อตอบสนองกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีอย่างต่อเนื่องและมากยิ่งขึ้น
ถึงตรงนี้เพื่อน ๆ คงทราบแล้วว่าเราไม่ควรสนับสนุนสินค้าที่ค้าชีวิตสัตว์ แต่ควรจะเลือกบริโภคสินค้าอย่างไรให้ ปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม และไม่ทำลายชีวิตสัตว์
การที่มีคนนิยมซื้อสินค้า Brandname ไม่ก็ไม่ผิดหรอกคะดิฉันก็เป็นอีกคนที่ชอบสินค้า Brandname เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าต่างๆ แต่สินค้าที่ผลิตออกมาจะต้องไม่เป็นที่เดือดร้องใคร อย่างบางบริษัทที่นำสัตว์ที่หายากมาผลิตเป็นสินค้า Brandname และมีคนที่สนับสนุนโดยการสั่งซื้อ พวกคนเหล่านี้เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากเพราะสินค้าที่ท่านสั่งซื้อ คุณได้ฆ่าสัตว์ที่หายากไปแล้วกี่ตัว สิ่งที่คุณทำมันเป็นเรื่องที่น่าระอายมาก ท่านรู้แต่ท่านไม่สนมันยิ่งทำให้ท่านดูน่ารังเกลียดมาก หยุดการสนับสนุนเถอะคะ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบดิฉันคิดว่าขายชีวิตสัตว์มากกว่า เพราะสินค้าแต่ละชนิดก็ทำมาจากหนังสัตว์ทั้งนั้น การที่จะได้ชุดใส่ไปในงานต่าง ๆ ที่ทำมาจากหนังสัตว์ หรือ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ หรือ แม้กระทั้งรองเท้า และเครื่องประดับต่าง ๆ ก็ทำมาจากชีวิตสัตว์ ในการทำนั้นอาจจะใช้สัตว์มากกว่า 1-2 ตัวก็เป็นได้ และลองย้อนถามว่า กระเป๋าหรือของ Brand name ที่ใช้กันนั้นสัตว์ที่ฆ่ากันไปเขาได้อะไรจากเราบ้าง? ไม่มีใครตอบได้ แต่คนที่ใช้ได้ความหรู ดูดี เป็นที่เชิดชูของสังคมก็เท่านั้น แต่คนเราก็ยังจะใช้ของพวกนี้กัน เพราะมันยังทำให้ฆ่าชีวิตสัตว์มากมายแล้วนั้นมันยังทำให้สินเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ถ้าจะใช้กระเป๋า รองเท้า ชุดเสื้อผ้าต่าง ๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นสินค้าBrand name ก็ทำให้หรูได้ และยังทำไม่ให้สินเปลืองด้วย เพราะสินค้าเลียนแบบสินค้า Brand name มีเยอะแยะไป ถ้านำมาใช้แล้วใครจะรู้ว่าไม่ใช่สินค้า Brand name ยิ่งเดี๋ยวนี้มีสินค้าที่ทำเลียนแบบที่เหมือนอีกมากมายอีกด้วย
ตอบลบดิฉันยังมีบทความ ความรัก กะ รองเท้าที่ไม่พอดี มาให้อ่าน บุคคลที่ได้อ่านแล้วนั้นคงจะคิดได้ว่า สินค้าที่ราคาแพง หรู ดูดี กับสินค้าที่ ดี ราคาไม่แพง เป็นอย่างไรนะค่ะ
ความรัก กะ รองเท้าที่ไม่พอดี
วันหนึ่ง .........ฉันอยากได้รองเท้า ฉันเดินเข้าไปในร้านที่มีรองเท้าหลากสี-หลายแบบวางเรียงรายร้านแล้วร้านเล่าแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้รองเท้าถูกใจกลับไปด้วยแม้แต่คู่เดียวเลือกแล้วเลือกอีกจนในที่สุดก็มาหยุดอยู่หน้ากระจกร้านหรูแห่งหนึ่งรองเท้าส้นสูงสีส้มคู่นั้นสะท้อนเงาเฉิดฉายผ่านกระจกออกมาแตะตาฉันตั้งแต่แรกเห็นมันช่างเป็นรองเท้าที่สวยจนอยากมีไว้ประดับคู่เท้าในทุกย่างก้าวโดยไม่รอรี......ฉันเดินตรงลิ่วเข้าไปหามันแม้ป้ายราคาเล็ก-เล็กที่ติดเอาไว้จะบอกราคาที่ไม่เล็กนักแต่ฉันไม่ลังเลสักนิดเดียวที่จะจ่ายเงินจำนวนนั้นออกไปเพื่อให้ได้รองเท้าที่ถูกใจที่สุดในวันนี้'แน่นนิดนึงนะคะ...มีคู่ใหม่ที่ใหญ่กว่านี้มั๊ย'ฉันถามพนักงานขายขณะที่กำลังพยายามสอดเท้าลงไปในรองเท้าคู่สวยให้พอดี แล้วพบว่ามันพอดิบ-พอดีจนขยับเท้าไม่ได้'ไม่มีหรอกค่ะ....เรามีแบบละคู่เท่านั้น รับรองว่า ใส่แล้วไม่ซ้ำแบบใคร'พนักงานขายเสนอข้อได้เปรียบในการซื้อสินค้า'แต่ดิฉันว่าใส่แล้วก็พอดีนะคะ เผื่อมันยืดออกอีกนิดหน่อย'เธอยังคงเสนอต่อเมื่อเห็นแววตาที่ฉันชื่นชมสินค้าของเธอ- - เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านด้วยรอยยิ้มกรุ่นพร้อมกับรองเท้าคู่สวยที่อยู่ในมือ - -ฉันจัดแจงโยนรองเท้าผ้าใบคู่เก่าที่ใส่มาแรมปีทิ้งไปอย่างไม่แยแสวันรุ่งขึ้น ............ ..ฉันออกเดินด้วยรองเท้าคู่ใหม่อย่างเฉิดฉายยิ่งมีใครต่อใครชมว่ามันสวยนักหนาฉันก็ยิ่งปลื้มใจ ทว่าไม่ทันข้ามวันรองเท้าเจ้ากรรมก็แผลงฤทธิ์จนฉันเดินโขยกเขยกและเย็นวันนั้นฉันก็ต้องกลับมาบ้านพร้อมกับเท้าที่ระบมหากชีวิตคนเราเป็นเหมือนการเดินทางไกลความรักก็คงเป็นเหมือน "รองเท้า"แท้ที่จริงแล้วฉันว่าคนเราไม่ได้ต้องการ 'รองเท้าสวย' มากไปกว่า- - รองเท้าที่ใส่สบาย - -แต่ก็นั่นแหละ ใคร-ใครก็ย่อมชอบรองเท้าสวย-สวยด้วยกันทั้งนั้นถึงไม่น่าแปลกที่หลายคนมักตัดสินใจซื้อรองเท้าเพราะว่า 'มันสวย ' มากกว่า 'มันพอดีกับเท้าและแม้มันจะใส่แล้วคับไปนิด...อึดอัดไปหน่อยก็ยังไม่วางมือ
เหตุเพราะว่ามันสวยถูกใจหรือแม้มันจะราคาแพงลิบลิ่วก็ยังอยากเป็นเจ้าของให้ได้- - หากว่าเราต้องเดินทางอีกไกล - - -แม้จะมีรองเท้าสวยหรู ราคาแพง ยี่ห้อBrand nameมันก็คงไม่มีประโยชน์แม้จะสวยแค่ไหนแต่ถ้ามันทำเท้าเราเจ็บ...สุดท้ายก็คงต้องถอดมันออกเพราะถ้าขืนเราเดินทั้งเท้าเจ็บ-เจ็บเราคงไปไม่ถึงปลายหนทางความรักก็เช่นกันเราอาจใฝ่ฝันที่จะมีคนรักสวย รวย เก่ง ฉลาด เลิศ หรู ..... แต่ความจริงแล้ว ....เราเพียงต้องการคน-คนนั้นเพื่อให้ "ตัวเราดูดีขึ้นมา" เท่านั้นเองฉันว่านะ....รองเท้าที่ใส่แล้วสบายไม่จำเป็นต้องสวยเด่นอะไรเพราะฉะนั้น คนที่จะมาจับจูงมือเราไปตลอดทางของชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ดีเลิศที่สุดจนใครนึกอิจฉา แต่คงเป็น...คนที่เค้ารักเรา ดูแลเรา ดีต่อเราเข้าใจเราไม่ทำให้เราเจ็บ ไม่ทำให้เสียใจ ซะมากกว่า... บางที...การใส่รองเท้าที่เดินแล้วสบายมันอาจทำให้เรามีความสุขมากกว่า เพราะฉันเชื่อว่ามันจะพาเราไปจนถึงจุดหมาย
โดยที่เราไม่ต้องเจ็บเท้าและนึกอยากจะโยนมันทิ้งไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด ตลอดการเดินทาง...
ที่มา www. BlogGang.com
นิพพา อินต๊ะโม
ตอบลบดิฉันคิดว่าการล่าสัตว์เพื่อที่จะนำมาทำเป็นสินค้าต่างๆที่มี Brandname ดังๆ
นั้น ดิฉันคิดว่ามันไม่จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะทำลายชีวิตสัตว์เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับคนบางกลุ่ม ซึ่งการทำลายชีวิตสัตว์นั้นมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติทำให้สัตว์ที่อยู่ในป่า บางชนิดต้องสูญพันธ์และเหลือน้อยลงและในอนาคตสัตวืป่าจะไม่เหลือให้ลูกหลานเราได้ดูอีกต่อไป
จากในความคิดของดิฉันดิฉันคิดว่าการที่จะซื้อสินค้าBrandnameนั้นเราไม่จำเป็นว่าจะต้องเลือกซื้อสินค้าที่ทำจากหนังสัตว์ขนสัตว์หลอกเราซื้อสินค้าBrandnameประเภทอื่นมาใช้ก็ได้และคนส่วนมากมักจะคิดว่้าการได้ใช้สินค้าBrandnameจากหนังสัตว์ขนสัตว์นั้นจะทำให้คนที่พบเห็นสนใจตัวเองหรือเพราะกระแสนิยมอย่างตอนนี้นิยมสินค้าที่ทำมาจากหนังสัตว์ก็จะพากันไปชื้อสินค้าตัวนั้นขึ้นมาแต่จริงๆแล้วคุณคิดหรือไม่ว่าสิ่งที่พวกคุณนำมันมาใช้นั้นมันก็มีชีวิตเหมือนคุณถ้ามีใครมาทำกับคุณแบบนั้นแล้วคุณจะเป็นอย่างไรและสัตว์ต่างๆที่คุณนำมาทำเป็นสินค้าBrandnameนั้นบางชนิดก็จะไม่มีอยู่แล้วคุณน่าจะคิดว่าการที่คุณทำแบบนี้และยังนิยมขอจำพวกนี้อยู่นั้นมันเป็นยังไงถ้าคนที่มีชีวิตจิตใจเขาจะไม่ทำแบบนี้กันหลอก
ตอบลบ