วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ถ้า 12122012 เป็นวันโลกแตกตามคำทำนาย ท่านจะทำอะไรก่อนโลกแตก?

ก่อนที่ทุกคนจะอ่านกระทู้นี้ ขอให้ทุกคนลืมเรื่องโลกร้อน หรือเรื่องน้ำท่วมโลกในอีก 50 ปีข้างหน้า หรือเรื่องยุคน้ำแข็งครั้งที่ 2 ที่ต่อจากน้ำท่วมโลก หรือเรื่องมนุษย์ต่างดาวบุกโลก หรือเรื่องการเมือง หรือเรื่องละครน้ำเน่า หรือละครเกาหลี ไปเลย แล้วลองมาอ่านกระทู้นี้ดู

ข้อความที่ท่านได้อ่านต่อไปนี้ สามารถเชื่อถือได้ แต่อาจจะไม่ 100 %
ซึ่งผมได้รวบรวมมาจาก Google และทฤษฎีต่างๆที่อ้างอิงได้จริง

หลายท่านอาจเคยทราบเรื่องราวนี้มาแล้ว.
ผมแน่ใจว่าอีกหลายๆท่านยังไม่เคยจะได้ยินได้ฟังเรื่อ งนี้มาก่อน.
ก่อนอื่นผมขอถามท่านผู้อ่านว่า ถ้าหากเราทราบว่าวันสุดท้ายของเรามาถึงเราจะทำอะไรใน วันเวลาที่เหลืออยู่....

หลายวันมานี้ผมเข้าไปอ่านเรื่อง 2012 The end of the earth.....ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้
http://www.youtube.com/watch?v=OW6jtcl0xkU

อ่านและชมไปหลายลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง จับใจความพอคร่าวได้ว่า...
ขณะดาวที่ชื่อว่า Planet X NIBIRU ที่มีวงโคจรตัดกับวงโคจรของโลกเราจะตัดผ่านมาใกล้โลก อีกครั้ง ดาวดวงนี้จะผ่านมาที่วงโคจรของเราทุกๆ3600 ปี

นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทวีปแอตแลนติกหายไป นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องโนฮากับเรื อสมัยน้ำท่วมโลก

ดาวดวงนี้จะเข้ามาใกล้โลกเรื่อยๆปี 2009 จะสามารถมองเห็นทางขั้วโลกใต้ด้วยกล้องส่องดาว

ปี 2011 จะสามารถมองเห้นด้วยตาเปล่า ขนาดเท่าดวงจันทร์ของเรา ดาวดวงนี้เป็นสีแดง

ปี 2012 จะเริ่มมีปฏิริยาต่อมวลสภาพอากาศบนโลก เศษหินในอวกาศที่มากับดาวนิบิรุจะตกลงมาบนพื่นโลก เป็นฝนดาวตกอันตรายต่อมวลชีวิตทั้งโลก

วันที่ 21 ธันวาคม 2012 หายนะครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดบนพื้นแผ่นดิน อย่างใครไม่เคยคาดคิดมาก่อน

วัน14 กุมภาพันธ์ 2013 วันนั้นเป็นวันที่ โลก +นิบิรุ+ดวงอาทิตย์ โคจรมาอยู่แนวแกนเดียวกัน แกนแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนไป

โลกจะหยุดหมุนรอบตัวเอง 3 วัน แผ่นดินจะแยกตัวเป็นเสี่ยง น้ำทะเลจะเป็นคลื่นมหาอภิสึนามิ ถล่มตามเมืองชายทะเลทุกแห่ง เมื่อแผ่นดินเคลื่อนตัวตามเปลือกโลก ลาวาก็จะถลักขึ้นมาเกิดเป็นภูเขาไฟมากมาย

ที่เคยอยู่ใต้ท้องน้ำก็จะโผล่มาอยู่เหนือน้ำ ที่เคยเป็นยอดเขาอาจจะยุบตัวลงไปเบื้องล่าง

แน่นอนผู้คนหลายล้านชีวิตต้องจบลง บ้านเมืองถล่มทลายไม่เหลือหลอ
เราจะไปหลบภัยที่ไหนได้?.........
เหตุการณ์ที่เลวร้ายเกินกว่าเราจะสามารถบรรยายถึงได้ จะเกิดขึ้นจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2014 ดาวนิบิรุก็เริ่มเคลื่อนตัวห่างจากโลกเราไปเรื่อยๆ

โลกเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ......ถึงเวลานั้นจะเหลือผู้ รอดชีวิตสักกี่คน?
ปี 2014 เป็นจุดเริ่มต้นของมนุษชาติอีกครั้งหนึ่ง

เรื่องนี้จะเป็นจริง จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอ ไม่เกินสามปีดาวที่มีชื่อว่า นิบิรุ NIBIRU ก็จะโผล่มาให้เห็นแล้ว

ถ้ามันโผล่มาให้เห็นจริง เริ่มที่ขั้วโลกใต้ แสดงว่าคำทำนายของนักดาราศาตร์นั้นเป็นจริง....เข้าแ ล้ว

แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่าว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2012 นั้นก็เป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------

ความเชื่อเรื่องโลกแตกมีอยู่หลายแนวความคิด จากหลายๆนักคิดหรือคนบางกลุ่มโดยอาจจะมีเรื่องศาสนาเ ข้ามาเกี่ยวข้อง เราคงเคยคุ้นกับความเชื่อเรื่องโลกแตกมาหลายอย่าง เช่น คำทำนายนอสตราดามุส หรือเหตุการณ์ช่วงปี1999 ( y2k) แต่ครั้งนี้ขอนำเสนออีกแนวความคิดที่มีนักวิชาการและ คนหลายกลุ่มให้ความสนใจและศึกษานั่นก็คือdoomsday 2012

วันสุดท้ายของปฏิทินชาวมายันคือ 21 ธันวาคม 2012

ชาวมายันเชื่อว่าวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นวันเกิดใหม่ เป็นการเริ่มต้นของ the World of the Fifth Sun เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ ดวงอาทิตย์เดินทางผ่านเส้น equator ของ Galaxy และโลกจะปรับทิศทางให้เข้ากับศูนย์กลางของ Galaxy ดวงอาทิตย์จะขึ้นเชื่อมกับการทับกันของทางช้างเผือกก ับระนาบของ Ecliptic บนท้องฟ้าจะปรากฏดาวเคราะห์ และดวงดาวต่างๆมากมาย ปรากฏการณ์ของจักรวาลครั้งนี้ถือว่าเป็น The Sacred Tree, The Tree of Lifeการที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งเดียวกับ Galaxy

ในปี 2012 จะเปิดช่องทางหนึ่งสำหรับพลังงานจักรภพที่จะไหลผ่านโ ลก ล้างโลกให้สะอาด รวมทั้งล้างสิ่งที่อาศัยอยู่ ยกทั้งหมดสู่ภาวะที่สูงขึ้น สรุปคือโลกแตกดับเพื่อการเกิดใหม่นั่นเอง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนให้ความสนใจถึงปีสุดท้ายของโลกโด ยอ้างถึงศาสตร์แขนงต่างๆ

อย่างทางด้านวิทยาศาสตร์มองว่าในปี 2012 จะเกิดเหตุการณ์ที่ชื่อว่า แกนโลกจะพลิกกลับขั้ว หรือ Pole Shift เป็นกระบวนการเมื่อขั้วทิศเหนือและขั้วทิศใต้กลับตำแ หน่งกัน

เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น, ที่จุดหนึ่งของเวลา สนามแม่เหล็กโลกจะลดลงเกือบจะถึงศูนย์เกาซ์ โลกที่จุดนั้นของเวลามีคุณสมบัติของแม่เหล็กเป็นศูนย ์ สิ่งนี้บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับการหมุนรอบพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ในทุกๆ สิบเอ็ดปีพอดีซึ่งอาจจะก่อให้เกิด

- ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)
- การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ
- ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ ่อนอย่างมาก
- ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น, เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม
- สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
- กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล ้โลกได้ง่ายขึ้น
-แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ส่วนทางด้านโหราศาสตร์ก็มองว่า ช่วงปีนี้จะเป็นปีที่จะเกิดการเรียงตัวกันของ โลก กาแล็คซี่ทางช้างเผือก และดวงอาทิตย์ เอาเป็นว่าจะจริงหรือไม่ใครสนใจสามารถหาข้อมูลได้เพิ ่มเติมที่ google : search คำว่า 2012 หรือ doomsday ก็ได้

การทำนายนั้นอยู่คู่กับสังคมของเรามานาน โดยเฉพาะการทำนายธรรมชาติ เช่นการดูสีของท้องฟ้า ก้อนเมฆ สายลม ดวงดาว แม้กระทั่งการมองเห็นด้วยจิต ที่สามารถหยั่งรู้ฟ้าดินและธรรมชาติได้ เหมือนที่เคยฮือฮากันไปเมื่อหลายปีก่อน เมื่อนาย กอร์ดอน (Gordon-Michael Scalion) ชาวอเมริกันที่เคยเสียชีวิตเมื่อปี 1979 แต่กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็อ้างว่า ได้รับพรสวรรค์ที่หยั่งรู้อนาคต เขามักจะเดินทางไปอยู่บนพื้นที่สูงๆ บนภูเขา แล้วมองลงมาเห็นภาพในอนาคต โดยเฉพาะภาพของเมืองที่เปลี่ยนไป และโลกที่จะเกิดขึ้นมาใหม่

คนที่เชื่อถือนายกอร์ดอนนั้นมีไม่น้อย เพราะได้เคยฝากผลงานการทำนายที่แม่นยำเอาไว้ เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในลอส แองเจอริส เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2535, เหตุการณ์แผ่นดินไหวในแคลิฟอร์เนียเมื่อ มกราคม 2537 รวมอีกหลายเหตุการณ์ที่เขาทายไว้แล้วก็ถูกเผง

แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุด ก็เห็นจะเป็นการทำนายเมื่อปี พ.ศ.2521 ซึ่งเขาเห็นตัวเองลอยอยู่เหนืออวกาศ แล้วมองลงมาบนโลก ด้วยภาพแผนที่โลกใหม่ เขาจึงใช้เวลาอยู่ 4 ปี ที่จะร่างแผนที่โลกอนาคตที่เห็นคนเดียวนั้นออกมาสู่ส ายตาชาวโลก พร้อมทั้งให้คำอธิบายไว้ว่า โลกที่แปรเปลี่ยนไปนี้จะเกิดจากน้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ทำให้ทวีปของโลกเคลื่อนไปหมด และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1998-2012 หรือ พ.ศ.2541-2555 นั่นเอง

แผนที่โลกใบใหม่ โดย Gordon-Michael Scalion ทำเสร็จเมื่อปี 2525

ความเชื่อนี้สอดคล้องกับคำทำนายของอีกหลายคน เช่น นาย ฮูเซลีนโย่ (Juseleeno ) ชาวบราซิล ที่มองเห็นอนาคตล่วงหน้าด้วยตานิมิต สิ่งที่เขาเห็นแบบเดียวกับกอร์ดอนเห็นก็คือ โลกจะพังพินาศด้วยภัยธรรมชาตินานัปการ เป็นต้นว่า ในปี 2551 นี้ ญี่ปุ่นจะเกิดแผ่นดินไหว รวมถึงจีน มีการเสียชีวิตนับล้านคน และจะเกิดการก่อการร้ายครั้งใหญ่ในอเมริกา ปี 2553 ทวีปแอฟริกาจะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนัก และปี 2554 จะเกิดโรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ฆ่ามนุษย์ วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2557 ดาวเคราะห์ขนาดเล็กจะชนกับโลก จนถึงปี 2558 มนุษย์จะตายเพราะทนความร้อนไม่ได้

สำหรับ “อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่า” ผู้ซึ่งอ้างว่าเคยได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวผู้โด่งด ังนั้น ก็อ้างว่าเขามีโทรจิตที่เห็นภาพอนาคตจากการบอกเล่าขอ งมนุษย์ต่างดาว ว่าในปี ค.ศ.2012 นั้น จะมีแสงสว่างมากที่สุดในกาแลกซี่และสะท้อนไปยังดาวเค ราะห์ที่โคจรรอบตัว สิ่งมีชีวิตและโลกจะปั่นป่วนอย่างยิ่ง

ด้วยความเชื่อเหล่านี้ บวกกับความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ จึงมีผู้คาดการณ์วันอันน่าระทึกเอาไว้ที่วันที่ 21 เดือน ธันวาคม ค.ศ.2012 นั้นเป็นวันเริ่มต้นกระบวนการดับสูญของโลก หรือ “Doomsday -21/12/12” โดยคาดการณ์ว่าเป็นวันที่พระอาทิตย์จะเดินทางมาอยู่ย ังศูนย์กลางของกาแลกซี่ ทำให้โลกดวงเล็กๆ ของเราคลอนโยกเยกและปลิวไปมา กระทั่งอาจจะต้องดับสูญลงไป โดยขณะนี้มีผู้จำลองเหตุการณ์ของ Doomsday แบบมัลติมีเดียไว้ในเวบไซต์ของ YouTube มากกว่า 20 ชุด เช่นวิดีโอด้านล่างนี้ ถูกบรรจุโดยผู้ใช้ชื่อว่า AfroDude เผยแพร่เมื่อเดือนเมษายนของปีนี้

มีผู้อธิบายปรากฏการณ์นี้ในเชิงวิทยาศาสตร์ว่า เกิดจากการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้คอมพิวเตอร์ Hyderabad คำนวณการแลกเปลี่ยนพลังงานที่ขั้วทิศเหนือและขั้วทิศ ใต้สลับตำแหน่งกัน ว่ามีคุณสมบัติแม่เหล็กพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ทุก ๆ 11 ปี และจะก่อพลังงานสูงสุดได้ในปี 2012 อย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่นเดียวกับที่เคยเกิดเมื่อหลายล้านปีก่อน

อย่างไรก็ดี มีผู้ออกความเห็นมากมายที่ยังเชื่อว่า ปี 2012 อาจไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นที่จะเห็นโฉมหน้าของโลกใหม่ เรากลับมาที่แผนที่โลกของนายกอร์ดอนอีกครั้ง ซึ่งแผนที่ฉบับนี้ (Future Map Of The World) ได้ระบุเหตุการณ์ไว้มากมาย สรุปที่สำคัญๆ ได้เป็นต้นว่า

ออสเตรเลียจะเสียแผ่นดินไป 25% จากน้ำท่วม, นิวซีแลนด์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะแผ่นดินเก่าและใหม่จะเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกัน นิวซีแลนด์ห่างไกลจากทะเลมาก แอฟริกาจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน แม่น้ำไนส์จะกว้างกว่าเดิมมาก ทะเลแดงจะกว้างออกทำให้ "โคโร" จมหายไปในทะเล เช่นเดียวกับเกาะมาดากัสการ์

จะมีแผ่นดินเกิดใหม่ในทะเลอาหรับ ทะเลสาปวิคอเรียจะรวมเข้ากับทะเลสาบยาซาไหลสู่มหาสมุ ทรอินเดีย ส่วนอเมริกาใต้จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ลุ่มน้ำอะเมซอนจะกลายเป็นทะเลปิดแบบเดียวกับทะเลสาปส งขลา ในแมกซิโกจะเกิดภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ยาวนาน 25 ศตวรรษ ส่วนยุโรปตอนเหนือจะจมลงทะเล เหลือแค่เกาะเล็กๆ รัสเซียจะแยกจากยุโรป เกิดทะเลใหญ่ยาวมาก ฝรั่งเศสจะจมน้ำเหลือแต่กรุงปารีส ทางน้ำใหม่จะแยกสวิสเซอร์แลนด์ออกจากฝรั่งเศส และอิตาลี เวนิส เนเปิ้ล รวมถึงโรมจะจมน้ำหายไปในทะเล ฯลฯ

แผนที่โลกใบใหม่ในส่วนเอเชีย และส่วนขยายประเทศไทย

มาดูฝั่งเอเชียของเรากันบ้าง แผนที่ใหม่นี้ได้บอกว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้เก ิดน้ำท่วมตั้งแต่ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ไปจนถึงทะเลแบริ่งซึ่งอยู่ระหว่างอะลาสก้ากับรัสเซีย เกาะญี่ปุ่นจึงจะจมหายไปหมด เหลือไว้แค่ 2-3 เกาะเท่านั้น ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ และไต้หวันกับเกาหลี ก็จะหายจมไปในทะเล ดังนั้น แนวฝั่งของจีนก็จะร่นเข้าไปในแผ่นดินใหญ่หลายร้อยไมล ์ทีเดียว อินโดนีเซียจะถูกทำลาย เช่นเดียวกับฟิลิปินส์ เอเชียจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สูงมากเพราะตั้งอยู่บน 3 ทวีป ส่วนไทยนั้นอยู่บนแผ่นทวีปของ ยูเรเซี่ยน ซึ่งจะเกิดการยกตัวให้สูงขึ้น แผ่นแปซิฟิกจะเคลื่อนไป 9 องศา ดังนั้น บางส่วนจะมุดตัวลง บางส่วนจะยกตัวขึ้น

ผลสรุปการทำนายก็คือ ประเทศไทยจะยังเหลืออยู่บางส่วนตามภาพที่ขยายออกมา ซึ่งคงได้ยินกันมาอยู่บ้างว่า ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุดคือภาคเหนือ ส่วนอีสานบางส่วน และภาคใต้จะจมลงไปในทะเลพร้อมกับมาเลเซีย สิงคโปรและอินโดนีเซีย ส่วนชายฝั่งทะเลจะมาอยู่ที่ชัยภูมิ เพรชบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัยและตาก และแม่น้ำโขงจะกลายจากแม่น้ำเป็นทะเล

เดือนตุลาคม ค.ศ. 2000 ชาวคอร์กิโนหลายคน เห็นดวงแสงลึกลับ ลอยวูบลงสู่พื้นดิน แล้วพุ่งกลับขึ้นไปในอากาศ ทิ้งรอยไหม้จนหินละลาย ซึ่งต่อมาหินละลายดังกล่าว ได้รับการตรวจสอบจากนักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเพนซ ิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ที่ลงความเห็นว่าหินได้รับความร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากแสงลึกลับแล้ว ที่นี่ยังมีชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่าเขาสามารถติดต่อกั บมนุษย์ต่างดาวได้มานานแล้ว ล่าสุดเมื่อปี 2002 เขาก็อ้างว่าเขาถูกลักพาตัวไปยังยางนอกโลกถึง 3 วัน ซึ่งงานนี้เขาไม่ได้อ้างลอยๆ นะ เขามีพยานหลักฐานอันน่าทึ่ง และยังไม่อาจพิสูจน์ค้านได้ว่าเป็นการทำปลอม หรือกุเรื่องขึ้นเสียด้วย

ชายผู้มีประสบการณ์พิเศษคนนี้ ชื่อ อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่า เขาอ้างว่าเขาเคยติดต่อ กับมนุษย์ต่างดาวมาหลายครั้ง มนุษย์ต่างดาวของ โอลิเวียร่า ไม่ใช่ทอล ดาร์ค แอนด์ แฮนซัม แต่เป็นทอล บลอนด์ ผิวขาวร่างสูง ผมบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าจาง โดยมีแก้วตาสีเหลืองอ่อนวางตามตัวตามแนวตั้งเหมือนตา แมว ฟังดูไม่น่าเกลียดเหมือนตัวอีทีโอลิเวียล่า บอกเราว่ามนุษย์ต่างดาวใช้สิ่งที่เรียกว่าแสงพลาสม่า เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารกับเขาทางโทรจิต

เหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 กันยายน 2002 คืนนั้น

โอลิเวียร่า หายตัวไปจากห้องนอน ทิ้งไว้แต่รอยไหม้รูปร่างคนนอนบนผู้ปูเตียงและบนฝ้าเ พดาน ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน อีก 3 วันต่อมมจู่ๆ เขาก็กลับมาอยู่ในห้องนอนนั้น และเขาอ้างตลอดว่า เวลาที่เขาหายไปนั้นเขาถูกนำตัวไปยังยานต่างดาว

โอลิเวียร่า บอกว่าเขารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยเขาได้รับการติดต่อ ทางโทรจิตผ่านแสงพลาสม่า ว่ามนุษย์ต่างดาวจะมานำตัวเขาไปในคืนดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุการณ์จะมีสัญญาณนำมาให้รู้ โดยจะเกิดฝนก้อนหินตกลงมา

ค่ำวันที่ 15 กันยายน 2002 เวลาประมาณ 19.13 น. เพื่อนบ้านใกล้เคียงของ โอลิเวียร่า ต้องประหลาดใจที่ได้ยินเสียงอะไร ร่วงกรูกราวอยู่บนหลังคา เมื่อออกมาดูพบว่าเป็นก้อนหินกลมๆ ก้อนเล็ก ๆ ตกลงมาจากท้องฟ้า หลายคนช่วยเก็บก้อนหิน บางคนก็ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วย

เขาเล่าว่า ในขณะที่เขานอนอ่านหนังสืออยู่ยนเตียงสักครู่ก็มีแสง สีม่วงสว่างไปทั้งห้อง แสงนั้นรวมตัวเข้าเหมือนฟองสบู่ ร่างของเขาลอยทะลุเพดาน รู้สึกเหมือนกระดูถูกยืดออก แต่ไม่มีความเจ็บปวด ครั้งลอยพ้นผ่านหลังคาบ้านไป ลำแสงสีม่วงก็พลิกร่างเขาให้ยืนขึ้น เมื่อไปถึงยานต่างดาว ( ซึ่งเขาไมได้บอกว่ามันเป็นอย่างไร ) เขาก็ถูกนำตัวเข้าไปในฟองอากาศ ใบใหญ่ ซึ่งมีผิวบางใส คล้ายๆ ว่าข้างในคงจะคล้ายๆ ห้องฆ่าเชื้อ ปรับพลังงานให้สมดุลย์อะไรทำนองนั้น จากนั้นมนุษย์ต่างดาวผมบลอนด์ร่างสูง ก็พาเขาขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของยาน ซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ที่นั่นมนุษย์ต่างดาวให้เขาดูจอภาพ อันเป็นภาพเกี่ยวกับโลก ระบบสุริยะ และกาแล็คซี่ของเรา มนุษย์ต่างดาวบอกว่า ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 ( พ.ศ. 2555 ) จะเกิดปรากฎการณ์ในอวกาศครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีผลกระทบไปทั้งจักรวาล ในวันนั้นแกแล็คซี่จะส่งแสงวาบเจิดจ้าออกมาก ดวงอาทิตย์ทุกดวงในแกแล็คซี่ จะสะท้องแสงนั้นไปยังดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัวมัน สิ่งมีชีวิตทั้งมวลอันมีดวงตาจะได้เห็นแสงเจิดจ้านี้ ทั่วหน้ากัน โลกของเราจะปั่นป่วน ด้วยพายุสุริยะทั้งแสงอาทิตย์ก็จะร้อนจัดขึ้น

คำทำนายของมนุษย์ต่างดาว ที่ว่าจะเกิดอาเพศขึ้นทั่วทั้งจักรวาลในวันนั้นจะเป็ นจริงหรือไม่ น่าแปลกที่ว่า วันที่ 22 ธันวาคม 2012 นั้นเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วย

อีกไม่กี่สิบปีเราคงจะได้เห็นปรากฎการณ์นั้น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบาง

ทั้งหมดนี้ ที่ฟังมานี้ ต่างต้องล้วนใช้วิจารณญาณ แต่ถ้าเป็นจริงขึ้นมาเมื่อไหร่ .......

สำหรับในบ้านเรา คุณหมอประสาน ต่างใจ เคยพูดเอาไว้ในงานเสวนา “พุทธศาสตร์กับอนาคตโลก” ถึงการละลายของน้ำแข็งบนยอดเขา จำนวน 19 ร้อยล้านตันว่าจะใช้เวลาอีกราว 5-7 ปี ซึ่งละลายหมดในปี ค.ศ.2012 เช่นเดียวกันกับปฏิทิน 22 ของชาวเผ่ามายา ได้ทำปฏิทินเอาไว้ที่ 5,000 ปี โดยแต่ละเดือนจะมี 20 วัน โดยเชื่อว่า โลกในวันสุดท้ายคือ 22 ธันวาคม ค.ศ.2012 พระเจ้าของพวกเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งนั่นเอง

อ่านจบแล้วอย่าลืมว่า นี่เป็นคำทำนายเท่านั้น ยังไม่มีใครรับรองได้ว่าจะเกิดได้จริงดั่งภาพนิมิตจา กนักทำนายเหล่านี้ ในวันที่ 21/12/2012 หรือไม่ มีแต่อนาคตเท่านั้นที่จะบอกได้ค่ะ : -)



ข้อมูลอ้างอิง

http://matrixinstitute.com/store/FUT...p-1-c-271.html

http://www.bibliotecapleyades.net/pr...ecia_mapas.htm

http://eclipse.gsfc.nasa.gov/SEmono/TSE2009/TSE2009.htm

www.starbridge.com.au

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=247742

http://www.youtube.com/v/nUI-LgZ2vlc&hl

http://www.youtube.com/v/nUI-LgZ2vlc&hl

http://www.indiadaily.com/editorial/1753.asp

52 ความคิดเห็น:

  1. ไปที่ nasa.gov กันเลยดีกว่า คอลัมน์นาซาตอบคำถาม มีหมายเหตุด้านบนว่า ทางนาซาได้รับคำถามเกี่ยวกับนิบิรุมาเป็นพันๆ ครั้ง และได้ตอบไปไม่ต่ำกว่า 200 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามส่งเข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้นกรุณาอ่าน SUMMARY ก่อนค่อยถามนะจ๊ะ (นักวิทยาศาสตร์เบื่อจะตอบแล้ว)

    หน้า summary คือที่นี่http://astrobiology.nasa.gov/ask-an-astrobiologist/intro/nibiru-and-doomsday-2012-questions-and-answers
    ผู้เขียนคือ David Morrison, NAI Senior Scientist เพิ่งเขียนตอบครั้งล่าสุดเมื่อ 1 มิถุนายน 2009 ที่ผ่านมานี้เอง

    ในหน้าเว็บดังกล่าวมี 20 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับนิบิรุ ผู้สนใจเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ ขอสรุปแบบย่อๆ เอาไว้ดังนี้

    1. ข่าวลือต่างๆ นานาเกี่ยวกับดาวนิบิรุชนโลกที่ปรากฏในอินเตอร์เน็ต เป็นข่าวลวงทั้งหมด (Hoax)

    2. Nibiru คือชื่อทางโหราศาสตร์ของดาวพฤหัสบดีในวัฒนธรรมบาบิโลน ไม่ใช่ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของดาวเคราะห์ดวงใหม่แต่อย่างใด (ส่วนที่อ้างว่าเป็นชื่อของทางสุเมเรียน สืบเนื่องมาจากนวนิยายของ Zecharia Sitchin ที่เรียก Planet ดวงที่ 12 ว่า นิบิรุ – เรียกว่าเป็น Planet เพราะในวัฒนธรรมโบราณนอกจากดาวเคราะห์ทั้ง 9 แล้ว จะนับรวมดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็น Planet ด้วย)

    3. หอดูดาวที่ขั้วโลกใต้ ไม่ใช่หอดูดาวของนาซา แต่เป็นของ NSF เป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุ (radio telescope) สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ในช่วงคลื่นอินฟราเรด และวิทยุคลื่นสั้น ผลจากการสังเกตการณ์ไม่ใช่รูปภาพ ดังนั้นภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นภาพของนิบิรุที่มองเห็นแม้ในเวลากลางวัน จึงไม่จริง

    4. คำว่า Planet X เป็นคำที่นักดาราศาสตร์ใช้เรียกดาวเคราะห์ลึกลับที่ยังค้นไม่พบแต่จากผลการ คำนวณเชื่อว่าน่าจะส่งอิทธิพลต่อวงโคจรของดาวเคราะห์ที่รู้จักแล้ว เมื่อมีการค้นพบดาวเคราะห์ ก็จะตั้งชื่อสามัญให้ ดังเช่น พลูโต และอีรีส ซึ่งครั้งหนึ่งก็เคยถูกเรียกว่า Planet X มาก่อน แต่ ดาวเคราะห์แคระที่ค้นพบอยู่ในเขตรอบนอกของระบบสุริยะ ไม่มีดวงใดที่มีวงโคจรเข้ามาถึงระบบสุริยะชั้นในเลย จึงไม่มีทางจะมาทับซ้อนกับวงโคจรของโลกได้

    ในหน้า Summary ดังกล่าวยังมีการยืนยันถึงเรื่อง “โลกพลิกกลับด้าน” อีกครั้งด้วยว่า ไม่เป็นความจริง และว่าการกุข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับ “วันพิพากษา” เหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้หวาดกลัวต้องเสียเงินเสียทองไปในกรณีต่างๆ กัน ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณและตรวจสอบความเป็นจริงกันก่อนจะเชื่ออะไร

    น่าสงสารคุณเดวิดจริงๆ ดูท่าจะต้องเขียนตอบไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว เพราะตอบด้วยความเหนื่อยใจอย่างมาก เอ้า! ก็ช่วยกันประกาศข้อเท็จจริงต่อไปก็แล้วกัน ข่าวลือน่ะแพร่ง่าย เชื่อง่าย แต่ความจริงมักไม่ค่อยมีใครเชื่อ แปลกแท้ๆ

    ข้อความข้างบนนี้ ผมไปก๊อปในเวปมา ครับ และไม่ทราบว่า จะมีผู้ใดได้อ่านแล้วรึยัง แต่ผมคิดว่าพวกนาซ่ามันก็เชื่อถือไม่ได้หมดหรอก มันต้องมีหมกเม็ดอะไรบางอย่างที่เฉพาะคนวงในรู้กันเท่านั้น คิดในอีกแง่นึงก็คงจะเป็นเรื่องไกลตัวเกินไปที่จะมานั่งคิดนอนคิดกับเรื่องที่ว่าจะสิ้นโลกเมื่อไหร่
    ซึ่งผมเองมีความสนใจเรื่องอวกาศอยู่แล้วแต่ก็ไม่อยากเป็นแบบพวกนักดาราศาสตร์นักหรอก เพราะ พวกเขาแค่รู้ความเป็นไป ของดวงดาวที่เฝ้ามองอยู่ทุกวัน แต่ไม่รู้วิธีแก้ปัญหาที่ว่า ถ้ามันชนโลกจะต้องทำเช่นไร

    อย่างไรก็ดี ทุกสิ่งล้วนผุพังเป็นธรรมดา มีเกิดย่อมมีดับ หาความแน่นอนไม่ได้หรอกกับธรรมชาติ

    เข้าประเด็นซะทีที่ว่าถ้าโลกแตกนั้น จะทำอะไรก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
    ตอบ ทำใจ จ้า

    ฟ้าอยู่ค้ำคน คนไม่อยู่ค้ำฟ้า (ชี้ชุ่ย)

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ18 สิงหาคม 2552 เวลา 09:06

    สิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรกก็คือ ทำใจก่อนเลยค่ะ แล้วทำทุกอย่างให้เหมือนปกติ..เหมือนว่าไม่มีอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
    แล้วก็คงกลับไปหาครอบครัวและสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ช่วยกันทำอาหารกินกัน นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ แล้วขอโทษในสิ่งที่เราเคยทำให้คนในครอบครัวเสียใจหรือไม่สบายใจ กอด หอมแก้มทุกคนในครอบครัวไปจนถึงวินาทีสุดท้ายของวันเวลาที่เหลืออยู่เลยค่ะ

    ตอบลบ
  3. ถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ ก็คงต้องทำใจมากๆแต่ก็ต้องทำใจเพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ มีเกิดก็ต้องมีวันสูญสลาย แต่ช่วงชีวิตที่เหลือก็คงจะทำให้ดีที่สุด อยู่กับครอบครัวให้พร้อมหน้าพร้อมตา ทำอาหารกินกันให้อิ่ม โดยไม่คิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แค่เนี้ยก็น่าจะมีความสุขที่สุดในโลกแล้วค่ะ
    **อย่าลืมทำวันนี้ให้ดีที่สุด**

    ตอบลบ
  4. อะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิดพยายามอย่าคิดจะดีที่สุด

    เพราะสิ่งที่คิดอาจจะน่ากลัวจะทำให้ไม่มีกำลังใจ

    ทำให้หวาดกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นและอาจจะคิดมากไป

    ควรจะทำตัวให้เป็นปรกติไม่ควรคิดมากหากมันจะเป็นจริง

    ควรหาเวลาให้อยู่กับครอบครัวมากๆและทำชีวิตให้มีความสุขที่สุด

    อะไรไม่เคยทำก็ทำซะ(ที่เป็นความดี)อะไรไม่เคยกินก็กินให้หมด

    เดี๋ยวตายไปจะไม่ได้กิน

    ตอบลบ
  5. ->ถ้าหากเราทราบว่าวันสุดท้ายของเรามาถึงเราจะทำอะไรใน วันเวลาที่เหลืออยู่....

    ทำให้วันนี้ให้ดีที่สุด...ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง

    --->บอกรัก

    -ไปบอกคนที่เราชอบว่าเราชอบเธอนะ

    ----->แต่งงาน มีครอบครัว

    วันสุดท้ายที่หมดเวลาจะออกบวช

    อิๆๆ

    ตอบลบ
  6. ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนโลกนี้ก็จะถึงจุดจบและอวสานในที่สุด......และสิ่งที่อยากทำ... ก่อนอื่นก็คงต้อง
    ทำใจกับเหตุการณ์ที่จะเกิดกับวันข้างหน้าเสียก่อน อย่างไรเสียก็ไม่ใช่เราคนเดียวที่จะต้องลาโลกใบนี้..คนเราทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย...
    ไม่ช้าก็เร็ว แต่ขอทำชีวิตให้ดีที่สุดและประสบกับความสำเร็จ.....
    ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ....ขอแสดงความกตัญญูต่อท่านเสียก่อนได้ทำหน้าที่ลูกที่ดี....และเมื่อเวลานั้นก็จะขออยู่กับครอบครัวใช้เวลาที่เหลือให้มีประโยชน์ที่สุด บอกรักกับคนที่เรารัก...กอดพ่อกับแม่ไว้เมื่อถึงเวลานั้นต่อให้โลกจะแตก น้ำจะท่วม เพียงแค่อยู่กับพ่อแม่
    หรือคนที่คุณรัก....มันก็ไม่น่ากลัว...แล้ว

    ตอบลบ
  7. สิ่งใดในโลกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหายไป...เหมือนกับเราที่ต้องเกิดมาแล้วก็ตายในไม่ช้า...ถ้าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจริงซึ่งแรงที่จะทำคือ...กินข้าวให้อิ่มแล้วอยู่กับยครอบครัว เพราะว่าเราจะได้อยู่กันอย่างมีความสุขถ้าตายไปจะไม่ได้ห่วงใครและถ้าได้เกิดใหม่ก็คงจะได้เกิดมาใช้ชีวิตร่วมกันอีก

    ตอบลบ
  8. หากโลกจะแตกจริง

    นับจากนี้ก็จะทำแต่ความดี คิดดี

    ทำบุญกับครอบครัว

    ทำชีวิตให้มีความสุข ให้ครอบครัว คนรอบข้างมีความสุข

    การเกิด ย่อมมีการดับสูญ

    แต่ก่อนที่โลกจะแตกจริงๆ

    ลองมาคิดดูนะคะว่าคุณทำความดีอะไรไปแล้วบ้าง

    มาเริ่มต้นทำความดีกันเถอะค่ะ

    ตอบลบ
  9. มันคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า หากอีกไม่นานโลกที่เราเคยอยู่จะต้องแตกสลายไป พ่อแม่อันที่รักเราล่ะ เพื่อน ญาติพี่น้อง และบุคคลที่เราเคารพ เราจะต้องจากกับบุคคลเหล่านั้นหรือ เศร้าใจนะเมื่อฟังไปแล้ว แต่ถึงยังไงความจริงก็คือความจริง ถ้าหากโลกจะแตก
    - ทำความดีกับพ่อแม่ให้มากๆๆ เพราะที่ผ่านมาเราคิดว่าเรายังทำดีกับพ่อแม่ไม่พอกับที่ท่านให้กำเนิดเรามาจนถึงทุกวันนี้
    -ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากมาก
    -ไปเที่ยวกับเพื่อนๆๆ


    /อีกมากมายที่อยากทำ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อวันพรุ่งนี้/

    -ถ้าเราปล่อยให้โลก เร่งตัวเรา ควบคุมตัวเรา จนเราขาดอิสระภาพ เราก็จะทุกข์ ถ้าเราจะเร่งโลก ควบคุมโลกให้โลกนี้เป็นไปตามความต้องการของเรา เราก็ทุกข์เช่นกัน -

    สุดท้ายหากโลกจะแตกวันนี้พรุ่งนี้ ก็ขอขอบคุณ พ่อแม่ที่ได้ให้กำเนิดเรามาได้อาศัยอยู่บนโลกนี้ อยากบอกว่าเรามีความสุขมากและเรารักพ่อแม่มากค่ะ

    ตอบลบ
  10. ทำในสิ่งที่อยากทำ...ทุกอย่าง
    ทดแทนพระคุณ บิดามารดา
    ทำบุญ สร้างกุศล
    แผ่เมตตาให้แก่สัตว์โลกทั้งหลาย เจ้ากรรม นายเวร
    คิดดี ทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ผ่องใส มองโลกในแง่ดี

    แล้วก็บอกรักคนที่เรารักว่า เรารักเค้าขนาดไหน
    ใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดค่ะ

    ตอบลบ
  11. ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ ก็คงต้องทำใจยอมรับให้ได้และก็ใช้ชีวิตที่เหลืออันน้อยนิดให้คุ้มค่าให้ได้มากที่สุด ทำในสิ่งอยากทำก่อนที่จะไม่ได้ทำเช่น อยากไปเที่ยวไหนก็ไป อยู่กับครอบครัวนานๆ อยากกินอะไรก็กินๆๆให้เบื่อไปเลย ใช้ชีวิตให้มันสุดๆๆๆไปเลย ตายไปจะได้ต้องมาเสียใจ

    ตอบลบ
  12. ÿÿÿ คงจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ อยู่กับครอบครัว ทำอาหารกินกัน โดยสนใจว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น อยากจะทำอะไรก็จะทำ อยากพูดอยากบอกอะไรกับใครก็จะบอก (เพราะไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ทำไมอีก)ใช้ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข และสุดท้ายที่จะทำอาจจะฟังดูเป็นแม่พระหน่อยนะแต่ก็จะทำ คือ จะ-นั่-ง-ส-ม-า-ธิ-แ-ผ่-เ-ม-ต-ต-า-ให้กับเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เราควรทำร้ายหรือไปเบียดเบียน และเจริญสมาธิ เพื่อปลงกับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และจากที่ได้อ่านหนังสือ –เ-ร-า-เ-กิ-ด-ม-า-ทำ-ไ-ม-*****พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า -ก-า-ร-ไ-ด้-เ-กิ-ด-เ-ป็-น-ม-นุ-ษ-ย์-นั้-น-เ-ป็-น-เ-รื่-อ-ง-ที่-ย-า-ก- ต้องมีบุญมาก อุปมาเหมือนเต่าตาบอดตัวหนึ่งดำน้ำอยู่ในทะเล ทุกๆ100ปีเต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่หัวขึ้นมาจากทะเลครั้งหนึ่ง ในทะเลที่มีห่วงเล็กๆ ขนาดใหญ่กว่าหัวเต่าหน่อยหนึ่งลอยอยู่ 1 ห่วง โอกาสที่เต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นมา แล้วสวมเข้ากับห่วงพอดียากเพียงใด โอกาสนั้นก็ยังมีมากกว่าการที่เหล่าสรรพสัตว์จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์*****เมื่อได้อ่านก็ยิ่งเข้าใจในชีวิต _รู้สึกว่าการที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้ว เมื่อเวลานั้นมาถึงก็คงจะไม่ตื่นตระหนกอะไรมาก เพราะไม่ว่ายังไงก็ตามทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็ว และช่วงที่เหลืออยู่นั้นจะเลือกที่จะทำความดีหรือความชั่วเท่านั้นเอง ............ สาธุ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ÿÝÝ

    ตอบลบ
  13. สุพัฒนา มะกอกน้อย
    ก่อนที่โลกจะดับลงนั้นทุกคนควรตั้งสติก่อนเป็นอันดับแรกนึกว่าโลกนี้ล้วนอนิจัง สิ่งที่ควรยึดถือคือความดีทำดีมากๆๆอย่าไปยึดถือกับสิ่งที่เห็น ได้ฟัง ได้พบปะพบเจอมาควรใคร่ครวญดูสิว่าคนเราเกิดมาก็ต้องตายทุกคนเกิดมาหนี้ความตายไปไม่ได้หรอกแต่ทุกคนควรคิดว่าอะไรเอ๋ยที่ไม่ตายไปกับเราแต่ถ้าเรายิ่งทำมันมันกลับจะคอยติดตามตัวเราไปทุกที่ทุกเวลา นั้นก็คือความดี เป็นคำสั้นๆๆแต่เป็นสิ่งที่ทำให้เราทำแล้วสบายใจไม่ว่าฟ้าจะถล่มดินทลายอะไรจะเกิดขึ้นบนโลกนี้คิดสะว่าทุกสิ่งล้วนอนิจังเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ผู้ที่ๆได้อ่านแล้วทำความดีกันมากๆๆนะค่ะบ๊ายๆๆ

    ตอบลบ
  14. ถ้าหากรู้ว่าโลกจะแตก

    แน่นอนเราต้องหาความสุขใส่ตัวให้มากๆ

    ดิฉันจะใช้เวลาอยู่กัยครอบครัวให้ได้มากที่สุด

    ทำให้คนที่ดิฉันรักมีความสุขมากที่สุด

    ทำความดีให้ได้มากที่สุด

    และถ้าถึงเวลาที่โลกใกล้จะแตกแล้ว

    ดิฉันอยากทำอะไรทุกอย่างที่อยากจะทำ

    ให้เวลาที่เหลือเป็นเวลาที่คุ้นค่า

    และพิเศษที่สุดของฉันและคนในครอบครัวเลยค่ะ

    จะไม่ร้องไห้หรือเสียใจ

    เพราะยังไงคนเราทุกคนก็ต้องตายอยุ่แล้วค่ะ

    ตอบลบ
  15. อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด คงจะไปหยุด ไปห้าม ไปยื้อมัน ไว้ได้

    คุณว่าจริงไหม? ฉะนั้น ก็ปล่อยไปเถอะค่ะ

    ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด ให้ดีต่อตัวเองและต่อผู้อื่นด้วย

    รักษาน้ำใจซึ่งกันและกันไว้ให้มาก

    ใส่ใจดูแล ความรู้สึกซึ่งกันและกันให้มาก

    ให้ความรักซึ่งกันและกันให้มาก

    และที่สำคัญ ให้เรารักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง

    ทำเถอะค่ะ!! อะไรๆในวันนี้จะได้ดีขึ้น

    แล้วถ้าโลกแตกไปจริงๆคุณจะได้ไม่เสียใจ

    ตอบลบ
  16. ไม่ว่าคำทำนายจะเป็นจริงหรือไม่ เราก็ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด

    สำหรับข้าพเจ้า จะเร่งทำความฝันให้เป็นจริง

    ใใช้เวลาบนโลกให้คุ้มที่สุด

    เพื่อโลกเพื่อเราและคนที่เรารัก คือ พ่อแม่

    ตอบลบ
  17. ก่อนที่จะถึงวันนั้นเราต้องชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีค่ามากที่สุด

    ก่อนที่จะไม่มีวันที่จะได้ทำในที่อยากทำ

    กว่าวันนั้นจะมาถึงอย่างน้อยๆ

    เราคงจะได้ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่

    ตอบลบ
  18. ถ้าโลกจะแตกจริงๆ
    สิ่งที่จะทำ คือ กลับบ้านใช้เวลาที่เหลืออยู่ครอบครัว
    เอาเงินทั้งหมดที่มีอยู่ไปบริจาคให้กับคนยากจน
    ศึกษาธรรมทำจิตใจให้สงบ

    ตอบลบ
  19. ไม่ระบุชื่อ22 สิงหาคม 2552 เวลา 20:05

    พรุ่งนี้เป็นเรื่องของอนาคต เราทุกคนไม่มีใครสามารถลวงรู้อนาคตได้แล้วอนาคตตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเพราะฉนั้นเราไม่จำเป็นต้องรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นขอแค่เราทำวันนี้ให้ดีที่สุดอยุ่กลับปัจจุบันให้มีความสุขทำสิ่งที่ทำให้เรามีคุณค่าไม่เสียชาติที่ได้เกิดมาเป็นคนเมื่อเราทำสิ่งที่เราตั้งใจไว้หมดแล้วพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นเราก็จะไม่เสียใจ

    ตอบลบ
  20. ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริงตามที่ได้กล่าวมาก็คงจะทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำใจและยอมรับมันให้ได้ สิ่งต่างๆที่มันจะเกิดขึ้นก็ต้องปล่อยให้มันเกิดขึ้น อีกอย่างเราไม่สามารถล่วงรู้อนาคตได้ดังนั้นสิ่งที่จะทำคือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดและทำดีกับคนที่รักเราหรือคนที่เรารักให้มากๆอย่างครอบครัว พ่อ แม่ ปู่ย่า ตา ยาย หรือแม้แต่คนอื่นๆที่ดีกับเรา และทำทุกอย่างที่อยากทำ เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริงแล้ว เราจะได้ไม่เสียใจ และมาเสียดายทีหลัง ว่าไม่ได้ทำ

    ตอบลบ
  21. ถ้า 12122012 เป็นวันโลกแตกตามคำนายก็เหลือเวลาที่จะใช้ชีวิตอยู่อีก3ปีกว่า ก็ต้องยอมรับและใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดกับคนรอบข้างของเราให้มากกว่าเดิม และหมั่นทำความดีเผื่อเราจะโชคดีได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกรอบ สิ่งหนึ่งที่ดิฉันอยากทำก่อนโลกแตก2วันคือพาครอบครัวขึ้นยานอวกาศไปอยู่นอกโลกตั้งถิ่นฐานอยู่บนดาวอื่น(ถ้าเป็นไปได้)

    ตอบลบ
  22. ถ้าใน 3 ปีข้างหน้าโลกจะแตกจริงๆ ก็จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้มีคุณค่า จะทำความดีให้ได้มากที่สุด และใช้เวลาที่เหลือ อยู่กับครอบครัวและคนที่เรารัก จะทำในสิ่งที่อยากทำให้เป็นจริง จะทำความฝันให้ประสบความสำเร็จ

    ตอบลบ
  23. ถ้า 12122012 เป็นวันโลกแตกตามคำทำนาย ท่านจะทำอะไรก่อนโลกแตก...อยากจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถจะทำได้..ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไปทุกๆที่กับครอบครัว ทำในสิ่งที่ตัวเองทำแล้วคิดว่ามีความสุขที่สุด เมื่อถึงวันที่โลกจะแตกจริงๆคงไม่มีสิ่งที่จะทำแล้วล่ะเพราะเราได้ทำมันไปหมดแล้วก่อนที่โลกจะแตก..อิอิ

    ตอบลบ
  24. หากโลกจาแตก จริงเราคงต้องปล่อบไปตามกาลเวลาค่ะ
    แต่มีบทความหนึ่งที่เราอยากจะให้ทุกคนอ่านนะค่ะ

    ชีวิตกับนาฟิกา
    เพราะชีวิตต้องเดินไปพร้อมกับเวลา

    ชีวิตจึงเป็นเหมือนเข็มนาฬิกา

    แต่เวลาของชีวิตต้องก้าวเดินพร้อม "สติ"

    เพื่อมิให้ก้าวผิดพลาด และไม่สามารถกลับไป....

    แก้ไขอดีตได้ แต่ให้อดีตที่พลาดไปสอนปัจจุบันไม่พลาดได้

    สอนให้เรามี "สติ" ระมัดระวังทั้งคำพูด ความคิด....

    และการกระทำ ให้อยู่ในความไม่ประมาท

    ...................

    เพราะเวลาของชีวิตที่เดินไป 1 นาที

    ก็เท่ากับว่าชีวิตเราใกล้ความตายเข้ามา 1 นาที

    และความตายก็รอเราอยู่เบื้องหน้าเช่นกัน

    เวลาของชีวิตทุกก้าวเดิน จึงควรสร้างคุณค่าและ ประโยชน์

    ให้ตนเองและ ส่วนรวม แม้เราต้องจากโลกนี้ไปแน่นอน

    ไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่ก่อนที่เราจะลาจากไป......

    เราควรทิ้ง "เมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม" ไว้เป็นแบบอย่าง

    แก่คนรุ่นหลังสืบต่อไป
    http://variety.teenee.com/saladharm/16531.html

    ตอบลบ
  25. ดิฉันคิดคิดว่า..
    สิ่งแรกที่ดิฉันจะทำคือ..
    สิ่งไหนที่ไม่ได้ทำในชีวิตเราก็ทำตอนนี้...
    สิ่งไหนที่ทำผิดพลาดไปก็แก้ไขก่อนที่อะไรจะสายไป..
    แล้วถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ...
    ดิฉันจะอยู่กับคนที่ดิฉันรักมากที่สุด...
    มันน่าจะเป็นการจากกันที่มีความสุขที่สุดแล้ว...

    ตอบลบ
  26. ก่อนโลกจะแตกจะทำอะไร ???

    ฉันจะใช้ชีวิตตามปกติ..

    ทำวันนี้ให้ดีที่สุด^^

    จะได้ไม่เสียดายหรือเสียโอกาสในการทำสิ่งต่างๆ

    ก้พอแล้วคะ

    ตอบลบ
  27. ถ้าโลกจะแตกจริงๆ

    ดิฉันก็คงต้องตั้งสติและทำใจเป็นอย่างมากเลย

    หลังจากนั้นก็จะทำในสิ่งที่อยากทำทุกอย่าง ทำความดีเยอะๆๆ

    ทำบุญให้เยอะๆๆ เพราะเราเชื่อกันว่าคนที่ทำทำแต่ความดี และทำบุญ

    เยอะจะได้ขึ้นสววรค์

    หลังจากนั้นก็จะกลับไปอยุ่กลับพ่อแม่ และทำวันนี้ให้ดีที่สุด

    แค่นี้ก็มีค่าที่สุดแล้วค่ะ

    ตอบลบ
  28. ไม่ระบุชื่อ23 สิงหาคม 2552 เวลา 23:38

    ถ้าวันนั้นมาถึง สิ่งที่ฉันอยากทำก็คือไปเที่ยวกับคนที่ฉันรัก
    ใช้เวลาที่เหลืออยู่กับครอบครัว พ่อแม่ และคนที่ฉันรัก
    ทำสิ่งดีๆเพื่อกันและกัน
    เพียงเท่านี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันก็จะไม่เสียใจ

    ตอบลบ
  29. ถ้าหากว่าโลกจะแตกจริง

    ฉันคิดว่าฉันจะใช้ชีวิตตามปกติที่เป็นอยู่ทุกวัน

    และไม่คิดมากหรือกังวลในเรื่องใดๆทั้งสิ้น

    ถ้าหากอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้เกิด

    และในความเชื่อส่วนตัวแล้วตามหลักของคริสต์ศาสนา

    พระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและเมื่อมนุษย์ทำบาปพระเจ้าก็จะลงมาพิพากษา

    ลงโทษกับมนุษย์ที่ได้ทำปาบพวกนั้นและสิ่งที่ควรทำคือยึดมั่นตามหลักคำสอนเพียงเชื่อวางใจและปฏิบัตตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
    แค่นี้ก็จะทำให้เรารอดจากความบาปทั้งปวง


    เพราะว่าความเชื่อในเรื่องโลกจะแตกนี้มาจากพระคำภีร์ไบเบิลของคริสต์ศาสนาที่ได้กำหนดเเละบัญญัติเอาไว้

    ตอบลบ
  30. ถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ

    ก็คงต้องทำใจและไม่คิดมากหรือกังวลในเรื่องใดๆทั้งสิ้น

    คนเราเกิดมาก็ต้องตาย

    ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า

    ตอบลบ
  31. สมมติว่าโลกนี่จะแตกจริง ๆ นั้น

    ผมคิดว่า ผมคงไม่ทำอะไรให้มันพิเศษมากหนัก

    เพราะผมคิดว่าชีวิตคนเรานั้นเกิดมาครั่งหนึ่ง ก็ต้องตายครั่งหนึ่ง

    ดังนั้นเราน่าจะทำให้ทุก ๆ วันของเรานั้นเป็นวันพิเศษ

    เราอย่าไปคิดถึงอนาคตจะดีก่า จงคิดว่าวันนี้เรายังมีชีวิตอยู่

    เราก็ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด

    ตอบลบ
  32. คิดดี.....ทำดี......พูดดี......และก็แต่งงาน






    ------------------จบข่าว---------------------

    ตอบลบ
  33. ทำบุญเยอะๆๆ....แต่ก็เป็นไปไม่ได้หรอก--อีกนาน



    อย่างมงายให้มากนัก----ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว

    ตอบลบ
  34. ดิฉันจะทำความดีค่ะ.....เราก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก


    ---ทุกคนเกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้ว---



    เราอย่าหลงงมงายมากนัก

    ตอบลบ
  35. ตอบแทนบุญคุณ พ่อ แม่ ให้ได้มากที่สุด

    ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมากที่สุด

    ตอบลบ
  36. ทำทุกสิ่งที่อยากทำ ทำแล้วมีความสุขก็จะทำ

    ....กิน...... นอน .....เที่ยว...

    ใช้เวลาที่เหลือ อยู่กับครอบครัวและคนรัก

    ตอบลบ
  37. ถ้าเกิดโลกจะแตกจริงๆดังคำทำนาย

    และถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆผมก็คงจะทำใจไม่ได้

    เพราะว่าผมจะไม่ได้ทำสิ่งที่ผมทำเป็นประจำทุกวันอย่างมีความสุข

    อย่างไปเรียนหนังสือที่คณะแล้วก็การอ่านหนังสือซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบ

    และทำเป็นประจำทุกวันอย่างมีความสุข

    แล้วที่สำคัญสิ่งที่อยากทำอีกอย่างนึงก็คือ

    การที่จะต้องบอกกับคนที่เรารักว่าเรารักเขา

    ก่อนที่มันจะสายเกินไปที่จะบอกให้เขาได้รู้

    สิ่งที่กระผมอยากทำในเวลาที่โลกจะแตกนั้นก็คงมีเท่านี้...

    ตอบลบ
  38. ก่อนจะถึงวันนั้น....
    ฉันจะใข้เวลาที่เหลืออยู่นี้
    ทำความดีให้มากเท่าที่จะทำได้
    ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า
    อยู้กับคนที่เรารัก
    ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม
    และเป็นคนดีของชาติ

    ตอบลบ
  39. คิดดีทำความดี..และอยู่กับครอบครัวและคนที่เรารัก

    ตอบลบ
  40. ก่อนจะถึงวันโลกแตก

    ผมจะทำทุกอย่าง

    ให้คนที่ผมรัก

    มีความสุขที่สุดก่อนจากกันไป

    ตอบลบ
  41. คิดดี ทำดี นั่งสมาธิหมู่ร่วมกับครอบครัวและคนที่เรารักและรอเวลานั้น
    เราจะได้ไปอย่างสงบ

    ตอบลบ
  42. ถ้าหากเกิดเหตุการณ์นี้จริง

    ก็จะทำใจคิดว่าทุกอย่างล้วน เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    ซักวันก็ต้องตายก็อยู่กับครอบครัว

    ทำสิ่งที่อยากทำ กินสิ่งที่อยากกิน

    ทำให้ตนเองและครอบครัวมีความสุขก่อนตาย

    และทำบุญให้ตัวเองเพราะไม่รู้ว่าจะมีใครทำบุญให้เรา

    ตอบลบ
  43. ถ้าโลกจะแตก เราก็ไม่สามารถหลีกหนีได้

    และก็เป็นส่วนน้อยมากที่เราจะรอดชีวิต

    สิ่งที่ดิฉันจะทำก่อนตายก็คือ การใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวและคนที่เรารักให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ไปทำบุญ และก็ไปเที่ยวให้รอบประเทศไทยไปเลย

    เพราะไหนๆก็จะตายแล้วก็ต้องหาความสุขให้ตัวเองจริงไหมคะ

    แล้วก็แบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นด้วย ด้วยการช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่าเรา

    เท่านี้เราก็มีความสุขมากพอแล้ว

    ไม่มีใครจะอยู่ในโลกนี้ได้เป็นพันๆปี ก็ต้องมีสักวันที่เราต้องจากโลกนี้ไปอยู่ดีแร้วจะไปกลัวอะไร

    ก็แค่เป็นไปตามอายุขัย

    ตอบลบ
  44. โลกจะแตกรึไม่ ก็จะใช้ชีวิตตามปกติ

    ตื่นนอนเป็นปกติ

    บอกรักและถามสารสุขดิบคนที่เรารัก เป็นปกติ

    กิน ดื่ม เที่ยว เป็นปกติ

    สวดมนต์ แผ่เมตตาก่อนนอน เป็นปกติ

    เพราะถือว่าที่ทำเป็นปกติทุกวันนี้

    ดีที่สุดแล้ว ^^

    ตอบลบ
  45. ส่วนตัวเรา

    อยากจะอยู่กับคนที่เรารัก

    พ่อแม่ คนรัก

    ถึงแม้ว่าโลกจะแตก จะยังไงซะเราก็

    ยังได้อยู่กับคนที่เรารัก และรักเรา

    ตอบลบ
  46. เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา

    สรรพสิ่งในโลกล้วนอนิจัง

    สิ่งที่กระทำก่อนที่โลกจะแตกก็คือ

    จะทำดีต่อสังคมและมนุษยชนให้มากที่สุด

    และก็อยู่กับคนที่เรารัก เช่น พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง

    ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน

    ตอบลบ
  47. จะขออยู่กับคนที่เรารัก นั้นก็คืออยู่กับครอบครัว

    มีพ่อ แม่ พี่ น้อง และคนในครอบครัว

    ถึงวันนั้นยังไงก็ไม่เสียใจ

    ตอบลบ
  48. ถ้าก่อนโลกจะแตกขอให้ได้อยู่กับครอบครัว คือ พ่อ แม่ และพี่น้อง ผู้เป็นที่รักของ ข้าพเจ้า และจะอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้กันและกันแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามก็มิอาจ มาขวางกั้นครอบครัวของข้าพเจ้าได้ และอยากจะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้กับครอบครัวของข้าพเจ้าให้สนุก ก่อนโลกจะแตกนั้นเอง ครับ

    ตอบลบ
  49. ครับ ถ้าโลกจะแตกจริงๆ กระผมก็จะกลับไปหาครอบครัวเพื่อไปอยู่ให้พร้อมหน้าพร้อมตากัน ทำกิจกรรมภายในครอบครัว บอกความในใจซึ่งกันและกัน ทานอาหารภายในครอบครัวพร้อมกันเป็นมื้อสุดท้าย

    ตอบลบ
  50. ก่อนแรกดิฉันจะใช้เวลาที่เหลือพาครอบครัวไปท่องเที่ยว ที่ไม่เคยไป ใช้เงินตามใจชอบ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะพอใช้วันอื่นไหม อยากกินอาหารหรูๆที่ไม่เคยกิน หลังจากนั้นก็จะทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำคะ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน บอกความรักที่มีต่อครอบครัว และบอกสิ่งที่ดิฉันเคยทำผิดต่อคำสั่งสอนของพ่อแม่ในขณะที่เรียน มหาวิทยาลัยคะ

    ตอบลบ
  51. ไม่ระบุชื่อ24 สิงหาคม 2552 เวลา 23:18

    ถ้าถึงวันโลกเเตงผมคงทำสิ่งดีๆๆให้สังคมเเละโลกไปนี้เเล้วครับเพราะผมตั้งใจที่จะทำสิ่งดีๆๆให้ตนเอง ครอบครัวเเละคนรอบข้าง ไม่ว่าจะทางวาจา การกระทำ เเละความรู้สึกดีๆๆซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อการกระทำเเด่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันครับ เเละอยากจะบอกทุกคนครับ ว่า เกิด เเก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่อง ธรรมดา ๆๆๆๆๆ คราฟฟฟฟ

    ตอบลบ
  52. ก่อนถึงวันโลกแตก....
    ก่อนหน้านั้นดิฉันคงไปอยู่ในที่ๆ สงบๆค่ะอย่างการปฏิบัติธรรม และก็พาครอบครัวไปด้วยเพราะก่อนหน้านั้นดิฉันมีโอกาสได้ไปแล้วกลับมาชวนพ่อแม่และพี่สาวไปด้วยกัน พวกเขาไม่อยากไปทั้งเรื่องไม่มีเวลาและก็คิดว่ามันเสียเวลา แต่มาถึงเวลาโลกจะแตกพวกเขาอาจจะตามใจเราเพราะมันเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว

    ตอบลบ