วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กระแสดัดฟัน..เพื่อสุขภาพ หรือ เพื่อความสวยงาม?

เตือนวัยรุ่น อย่ามั่วดัดฟัน เสี่ยงถึงตาย

หลังกระแสดัดฟันแฟชั่นระบาดไปทั่วในกลุ่มวัยรุ่นไทย ทำให้วัยรุ่นนิยมไปซื้อเหล็กดัดฟันปลอมที่ทำจากลูกปัดสีต่างๆ มาใส่ฟันเป็นจำนวนมากนั้น ล่าสุด นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จาก การตรวจสอบลวดดัดฟันแฟชั่นที่จำหน่ายในราคาถูกไม่เกินหลักร้อย และหาซื้อได้ตามตลาดนัดเปิดท้ายขายของ ฯลฯ เสี่ยงอันตรายมาก เพราะขณะนี้พบว่า มีวัยรุ่นนิยมซื้อลวดสเตนเลสที่ใช้ร้อยดอกไม้ไปเป็นลวดดัดฟัน

ทั้งนี้ พบว่ามีสารปนเปื้อนหลายชนิด เช่น ตะกั่ว พลวง ซิลิเนียม โครเมียม สารหนู และอื่นๆ ซึ่งสารเหล่านี้หากสะสมในร่างกายปริมาณมากจะก่อให้เกิดผลต่อไต ทำให้ไตวายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

"ลวดดัดฟันจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ทั่วไปที่ต้องขออนุญาตนำเข้าจาก อย.และมีมาตรฐานตามที่กำหนด แต่ลวดดัดฟันแฟชั่นที่ขายตามตลาดนัดนั้นไม่จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ วัสดุก็ไม่ได้มาตรฐาน วิธีการที่ผู้ซื้อลวดดัดฟันแฟชั่นใช้นั้น พบว่ามีการนำลวดมาวางไว้บนฟัน แล้วสอดปลายลวดเข้าไปในซอกฟันเพื่อเกี่ยวไม่ให้ลวดหลุดออกมา

นอกจากนี้ ภายในช่องปากมี น้ำลาย ซึ่งมีความเป็นกรด – ด่าง โดยจะทำปฏิกิริยากับสีที่เคลือบลูกปัด ทำให้สารที่เคลือบอยู่นั้นละลายออกมาและสะสมในร่างกาย อีกทั้งลวดที่ใช้ก็อาจจะเกี่ยวกับ กระพุ้งแก้ม เหงือก หรืออวัยวะในช่องปาก หากเป็นลวดที่ไม่ผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อ หรือไม่สะอาด ก็จะทำให้เกิดแผลติดเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องการจัดหรือดัดฟัน ต้องปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาล หรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน" นายชวรัตน์ กล่าว

ที่มา : http://www.zheza.com/index.php?a=blog&b=entry&uid=175918&eid=41

กระแสการปาหิน..ท่านเห็นด้วยกับความคิดข้างล่างนี้หรือไม่?

ปาหินใส่รถ เพราะความคึกคะนอง ทำไปตามกระแส ถ้างั้นสื่อหยุดเสนอข่าวได้ไหม จะได้ไม่เป็นกระแส

เวลาจับได้ก็บอกทำไปเพราะความคึกคะนอง
โห้ไอ้น้องเลย ชีวิตทั้งชีวิต
มาเสียไปเพราะความคึกคะนองของพวกเอ็ง
ทำไปเพราะกระแส ถ้างั้นสื่อไม่ต้องเสนอข่าวพวกนี้ได้ไหม
จะได้ไม่เป็นกระแสให้พวกนี้มันทำตาม

ที่มา : http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8157254/A8157254.html

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรียน "การตลาด" แล้ว เอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?

ในฐานะที่ท่านเรียนสาขาวิชา "การตลาด" นับถึงวันนี้ก็ประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว ท่านได้นำเอาความรู้ทางด้านการตลาด ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของท่านอย่างไรบ้าง?

อาหารสดบนห้าง ต่างจากอาหารสดจากตลาดสดอย่างไร?

การซื้ออาหารสดตามห้างต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารสดที่ซื้อตามตลาดสดทั่วไปแล้ว ท่านคิดว่ามีความเหมือนหรือต่างกันในด้านใดบ้าง?

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ถ้า 12122012 เป็นวันโลกแตกตามคำทำนาย ท่านจะทำอะไรก่อนโลกแตก?

ก่อนที่ทุกคนจะอ่านกระทู้นี้ ขอให้ทุกคนลืมเรื่องโลกร้อน หรือเรื่องน้ำท่วมโลกในอีก 50 ปีข้างหน้า หรือเรื่องยุคน้ำแข็งครั้งที่ 2 ที่ต่อจากน้ำท่วมโลก หรือเรื่องมนุษย์ต่างดาวบุกโลก หรือเรื่องการเมือง หรือเรื่องละครน้ำเน่า หรือละครเกาหลี ไปเลย แล้วลองมาอ่านกระทู้นี้ดู

ข้อความที่ท่านได้อ่านต่อไปนี้ สามารถเชื่อถือได้ แต่อาจจะไม่ 100 %
ซึ่งผมได้รวบรวมมาจาก Google และทฤษฎีต่างๆที่อ้างอิงได้จริง

หลายท่านอาจเคยทราบเรื่องราวนี้มาแล้ว.
ผมแน่ใจว่าอีกหลายๆท่านยังไม่เคยจะได้ยินได้ฟังเรื่อ งนี้มาก่อน.
ก่อนอื่นผมขอถามท่านผู้อ่านว่า ถ้าหากเราทราบว่าวันสุดท้ายของเรามาถึงเราจะทำอะไรใน วันเวลาที่เหลืออยู่....

หลายวันมานี้ผมเข้าไปอ่านเรื่อง 2012 The end of the earth.....ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้
http://www.youtube.com/watch?v=OW6jtcl0xkU

อ่านและชมไปหลายลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง จับใจความพอคร่าวได้ว่า...
ขณะดาวที่ชื่อว่า Planet X NIBIRU ที่มีวงโคจรตัดกับวงโคจรของโลกเราจะตัดผ่านมาใกล้โลก อีกครั้ง ดาวดวงนี้จะผ่านมาที่วงโคจรของเราทุกๆ3600 ปี

นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทวีปแอตแลนติกหายไป นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องโนฮากับเรื อสมัยน้ำท่วมโลก

ดาวดวงนี้จะเข้ามาใกล้โลกเรื่อยๆปี 2009 จะสามารถมองเห็นทางขั้วโลกใต้ด้วยกล้องส่องดาว

ปี 2011 จะสามารถมองเห้นด้วยตาเปล่า ขนาดเท่าดวงจันทร์ของเรา ดาวดวงนี้เป็นสีแดง

ปี 2012 จะเริ่มมีปฏิริยาต่อมวลสภาพอากาศบนโลก เศษหินในอวกาศที่มากับดาวนิบิรุจะตกลงมาบนพื่นโลก เป็นฝนดาวตกอันตรายต่อมวลชีวิตทั้งโลก

วันที่ 21 ธันวาคม 2012 หายนะครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดบนพื้นแผ่นดิน อย่างใครไม่เคยคาดคิดมาก่อน

วัน14 กุมภาพันธ์ 2013 วันนั้นเป็นวันที่ โลก +นิบิรุ+ดวงอาทิตย์ โคจรมาอยู่แนวแกนเดียวกัน แกนแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนไป

โลกจะหยุดหมุนรอบตัวเอง 3 วัน แผ่นดินจะแยกตัวเป็นเสี่ยง น้ำทะเลจะเป็นคลื่นมหาอภิสึนามิ ถล่มตามเมืองชายทะเลทุกแห่ง เมื่อแผ่นดินเคลื่อนตัวตามเปลือกโลก ลาวาก็จะถลักขึ้นมาเกิดเป็นภูเขาไฟมากมาย

ที่เคยอยู่ใต้ท้องน้ำก็จะโผล่มาอยู่เหนือน้ำ ที่เคยเป็นยอดเขาอาจจะยุบตัวลงไปเบื้องล่าง

แน่นอนผู้คนหลายล้านชีวิตต้องจบลง บ้านเมืองถล่มทลายไม่เหลือหลอ
เราจะไปหลบภัยที่ไหนได้?.........
เหตุการณ์ที่เลวร้ายเกินกว่าเราจะสามารถบรรยายถึงได้ จะเกิดขึ้นจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2014 ดาวนิบิรุก็เริ่มเคลื่อนตัวห่างจากโลกเราไปเรื่อยๆ

โลกเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ......ถึงเวลานั้นจะเหลือผู้ รอดชีวิตสักกี่คน?
ปี 2014 เป็นจุดเริ่มต้นของมนุษชาติอีกครั้งหนึ่ง

เรื่องนี้จะเป็นจริง จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอ ไม่เกินสามปีดาวที่มีชื่อว่า นิบิรุ NIBIRU ก็จะโผล่มาให้เห็นแล้ว

ถ้ามันโผล่มาให้เห็นจริง เริ่มที่ขั้วโลกใต้ แสดงว่าคำทำนายของนักดาราศาตร์นั้นเป็นจริง....เข้าแ ล้ว

แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่าว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2012 นั้นก็เป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------

ความเชื่อเรื่องโลกแตกมีอยู่หลายแนวความคิด จากหลายๆนักคิดหรือคนบางกลุ่มโดยอาจจะมีเรื่องศาสนาเ ข้ามาเกี่ยวข้อง เราคงเคยคุ้นกับความเชื่อเรื่องโลกแตกมาหลายอย่าง เช่น คำทำนายนอสตราดามุส หรือเหตุการณ์ช่วงปี1999 ( y2k) แต่ครั้งนี้ขอนำเสนออีกแนวความคิดที่มีนักวิชาการและ คนหลายกลุ่มให้ความสนใจและศึกษานั่นก็คือdoomsday 2012

วันสุดท้ายของปฏิทินชาวมายันคือ 21 ธันวาคม 2012

ชาวมายันเชื่อว่าวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เป็นวันเกิดใหม่ เป็นการเริ่มต้นของ the World of the Fifth Sun เป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ ดวงอาทิตย์เดินทางผ่านเส้น equator ของ Galaxy และโลกจะปรับทิศทางให้เข้ากับศูนย์กลางของ Galaxy ดวงอาทิตย์จะขึ้นเชื่อมกับการทับกันของทางช้างเผือกก ับระนาบของ Ecliptic บนท้องฟ้าจะปรากฏดาวเคราะห์ และดวงดาวต่างๆมากมาย ปรากฏการณ์ของจักรวาลครั้งนี้ถือว่าเป็น The Sacred Tree, The Tree of Lifeการที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งเดียวกับ Galaxy

ในปี 2012 จะเปิดช่องทางหนึ่งสำหรับพลังงานจักรภพที่จะไหลผ่านโ ลก ล้างโลกให้สะอาด รวมทั้งล้างสิ่งที่อาศัยอยู่ ยกทั้งหมดสู่ภาวะที่สูงขึ้น สรุปคือโลกแตกดับเพื่อการเกิดใหม่นั่นเอง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนให้ความสนใจถึงปีสุดท้ายของโลกโด ยอ้างถึงศาสตร์แขนงต่างๆ

อย่างทางด้านวิทยาศาสตร์มองว่าในปี 2012 จะเกิดเหตุการณ์ที่ชื่อว่า แกนโลกจะพลิกกลับขั้ว หรือ Pole Shift เป็นกระบวนการเมื่อขั้วทิศเหนือและขั้วทิศใต้กลับตำแ หน่งกัน

เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น, ที่จุดหนึ่งของเวลา สนามแม่เหล็กโลกจะลดลงเกือบจะถึงศูนย์เกาซ์ โลกที่จุดนั้นของเวลามีคุณสมบัติของแม่เหล็กเป็นศูนย ์ สิ่งนี้บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับการหมุนรอบพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ในทุกๆ สิบเอ็ดปีพอดีซึ่งอาจจะก่อให้เกิด

- ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)
- การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ
- ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ ่อนอย่างมาก
- ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น, เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม
- สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
- กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล ้โลกได้ง่ายขึ้น
-แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ส่วนทางด้านโหราศาสตร์ก็มองว่า ช่วงปีนี้จะเป็นปีที่จะเกิดการเรียงตัวกันของ โลก กาแล็คซี่ทางช้างเผือก และดวงอาทิตย์ เอาเป็นว่าจะจริงหรือไม่ใครสนใจสามารถหาข้อมูลได้เพิ ่มเติมที่ google : search คำว่า 2012 หรือ doomsday ก็ได้

การทำนายนั้นอยู่คู่กับสังคมของเรามานาน โดยเฉพาะการทำนายธรรมชาติ เช่นการดูสีของท้องฟ้า ก้อนเมฆ สายลม ดวงดาว แม้กระทั่งการมองเห็นด้วยจิต ที่สามารถหยั่งรู้ฟ้าดินและธรรมชาติได้ เหมือนที่เคยฮือฮากันไปเมื่อหลายปีก่อน เมื่อนาย กอร์ดอน (Gordon-Michael Scalion) ชาวอเมริกันที่เคยเสียชีวิตเมื่อปี 1979 แต่กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็อ้างว่า ได้รับพรสวรรค์ที่หยั่งรู้อนาคต เขามักจะเดินทางไปอยู่บนพื้นที่สูงๆ บนภูเขา แล้วมองลงมาเห็นภาพในอนาคต โดยเฉพาะภาพของเมืองที่เปลี่ยนไป และโลกที่จะเกิดขึ้นมาใหม่

คนที่เชื่อถือนายกอร์ดอนนั้นมีไม่น้อย เพราะได้เคยฝากผลงานการทำนายที่แม่นยำเอาไว้ เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในลอส แองเจอริส เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2535, เหตุการณ์แผ่นดินไหวในแคลิฟอร์เนียเมื่อ มกราคม 2537 รวมอีกหลายเหตุการณ์ที่เขาทายไว้แล้วก็ถูกเผง

แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุด ก็เห็นจะเป็นการทำนายเมื่อปี พ.ศ.2521 ซึ่งเขาเห็นตัวเองลอยอยู่เหนืออวกาศ แล้วมองลงมาบนโลก ด้วยภาพแผนที่โลกใหม่ เขาจึงใช้เวลาอยู่ 4 ปี ที่จะร่างแผนที่โลกอนาคตที่เห็นคนเดียวนั้นออกมาสู่ส ายตาชาวโลก พร้อมทั้งให้คำอธิบายไว้ว่า โลกที่แปรเปลี่ยนไปนี้จะเกิดจากน้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ทำให้ทวีปของโลกเคลื่อนไปหมด และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1998-2012 หรือ พ.ศ.2541-2555 นั่นเอง

แผนที่โลกใบใหม่ โดย Gordon-Michael Scalion ทำเสร็จเมื่อปี 2525

ความเชื่อนี้สอดคล้องกับคำทำนายของอีกหลายคน เช่น นาย ฮูเซลีนโย่ (Juseleeno ) ชาวบราซิล ที่มองเห็นอนาคตล่วงหน้าด้วยตานิมิต สิ่งที่เขาเห็นแบบเดียวกับกอร์ดอนเห็นก็คือ โลกจะพังพินาศด้วยภัยธรรมชาตินานัปการ เป็นต้นว่า ในปี 2551 นี้ ญี่ปุ่นจะเกิดแผ่นดินไหว รวมถึงจีน มีการเสียชีวิตนับล้านคน และจะเกิดการก่อการร้ายครั้งใหญ่ในอเมริกา ปี 2553 ทวีปแอฟริกาจะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนัก และปี 2554 จะเกิดโรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ฆ่ามนุษย์ วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2557 ดาวเคราะห์ขนาดเล็กจะชนกับโลก จนถึงปี 2558 มนุษย์จะตายเพราะทนความร้อนไม่ได้

สำหรับ “อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่า” ผู้ซึ่งอ้างว่าเคยได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวผู้โด่งด ังนั้น ก็อ้างว่าเขามีโทรจิตที่เห็นภาพอนาคตจากการบอกเล่าขอ งมนุษย์ต่างดาว ว่าในปี ค.ศ.2012 นั้น จะมีแสงสว่างมากที่สุดในกาแลกซี่และสะท้อนไปยังดาวเค ราะห์ที่โคจรรอบตัว สิ่งมีชีวิตและโลกจะปั่นป่วนอย่างยิ่ง

ด้วยความเชื่อเหล่านี้ บวกกับความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ จึงมีผู้คาดการณ์วันอันน่าระทึกเอาไว้ที่วันที่ 21 เดือน ธันวาคม ค.ศ.2012 นั้นเป็นวันเริ่มต้นกระบวนการดับสูญของโลก หรือ “Doomsday -21/12/12” โดยคาดการณ์ว่าเป็นวันที่พระอาทิตย์จะเดินทางมาอยู่ย ังศูนย์กลางของกาแลกซี่ ทำให้โลกดวงเล็กๆ ของเราคลอนโยกเยกและปลิวไปมา กระทั่งอาจจะต้องดับสูญลงไป โดยขณะนี้มีผู้จำลองเหตุการณ์ของ Doomsday แบบมัลติมีเดียไว้ในเวบไซต์ของ YouTube มากกว่า 20 ชุด เช่นวิดีโอด้านล่างนี้ ถูกบรรจุโดยผู้ใช้ชื่อว่า AfroDude เผยแพร่เมื่อเดือนเมษายนของปีนี้

มีผู้อธิบายปรากฏการณ์นี้ในเชิงวิทยาศาสตร์ว่า เกิดจากการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้คอมพิวเตอร์ Hyderabad คำนวณการแลกเปลี่ยนพลังงานที่ขั้วทิศเหนือและขั้วทิศ ใต้สลับตำแหน่งกัน ว่ามีคุณสมบัติแม่เหล็กพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ทุก ๆ 11 ปี และจะก่อพลังงานสูงสุดได้ในปี 2012 อย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่นเดียวกับที่เคยเกิดเมื่อหลายล้านปีก่อน

อย่างไรก็ดี มีผู้ออกความเห็นมากมายที่ยังเชื่อว่า ปี 2012 อาจไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นที่จะเห็นโฉมหน้าของโลกใหม่ เรากลับมาที่แผนที่โลกของนายกอร์ดอนอีกครั้ง ซึ่งแผนที่ฉบับนี้ (Future Map Of The World) ได้ระบุเหตุการณ์ไว้มากมาย สรุปที่สำคัญๆ ได้เป็นต้นว่า

ออสเตรเลียจะเสียแผ่นดินไป 25% จากน้ำท่วม, นิวซีแลนด์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะแผ่นดินเก่าและใหม่จะเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกัน นิวซีแลนด์ห่างไกลจากทะเลมาก แอฟริกาจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน แม่น้ำไนส์จะกว้างกว่าเดิมมาก ทะเลแดงจะกว้างออกทำให้ "โคโร" จมหายไปในทะเล เช่นเดียวกับเกาะมาดากัสการ์

จะมีแผ่นดินเกิดใหม่ในทะเลอาหรับ ทะเลสาปวิคอเรียจะรวมเข้ากับทะเลสาบยาซาไหลสู่มหาสมุ ทรอินเดีย ส่วนอเมริกาใต้จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ลุ่มน้ำอะเมซอนจะกลายเป็นทะเลปิดแบบเดียวกับทะเลสาปส งขลา ในแมกซิโกจะเกิดภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ยาวนาน 25 ศตวรรษ ส่วนยุโรปตอนเหนือจะจมลงทะเล เหลือแค่เกาะเล็กๆ รัสเซียจะแยกจากยุโรป เกิดทะเลใหญ่ยาวมาก ฝรั่งเศสจะจมน้ำเหลือแต่กรุงปารีส ทางน้ำใหม่จะแยกสวิสเซอร์แลนด์ออกจากฝรั่งเศส และอิตาลี เวนิส เนเปิ้ล รวมถึงโรมจะจมน้ำหายไปในทะเล ฯลฯ

แผนที่โลกใบใหม่ในส่วนเอเชีย และส่วนขยายประเทศไทย

มาดูฝั่งเอเชียของเรากันบ้าง แผนที่ใหม่นี้ได้บอกว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้เก ิดน้ำท่วมตั้งแต่ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ไปจนถึงทะเลแบริ่งซึ่งอยู่ระหว่างอะลาสก้ากับรัสเซีย เกาะญี่ปุ่นจึงจะจมหายไปหมด เหลือไว้แค่ 2-3 เกาะเท่านั้น ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ และไต้หวันกับเกาหลี ก็จะหายจมไปในทะเล ดังนั้น แนวฝั่งของจีนก็จะร่นเข้าไปในแผ่นดินใหญ่หลายร้อยไมล ์ทีเดียว อินโดนีเซียจะถูกทำลาย เช่นเดียวกับฟิลิปินส์ เอเชียจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สูงมากเพราะตั้งอยู่บน 3 ทวีป ส่วนไทยนั้นอยู่บนแผ่นทวีปของ ยูเรเซี่ยน ซึ่งจะเกิดการยกตัวให้สูงขึ้น แผ่นแปซิฟิกจะเคลื่อนไป 9 องศา ดังนั้น บางส่วนจะมุดตัวลง บางส่วนจะยกตัวขึ้น

ผลสรุปการทำนายก็คือ ประเทศไทยจะยังเหลืออยู่บางส่วนตามภาพที่ขยายออกมา ซึ่งคงได้ยินกันมาอยู่บ้างว่า ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุดคือภาคเหนือ ส่วนอีสานบางส่วน และภาคใต้จะจมลงไปในทะเลพร้อมกับมาเลเซีย สิงคโปรและอินโดนีเซีย ส่วนชายฝั่งทะเลจะมาอยู่ที่ชัยภูมิ เพรชบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัยและตาก และแม่น้ำโขงจะกลายจากแม่น้ำเป็นทะเล

เดือนตุลาคม ค.ศ. 2000 ชาวคอร์กิโนหลายคน เห็นดวงแสงลึกลับ ลอยวูบลงสู่พื้นดิน แล้วพุ่งกลับขึ้นไปในอากาศ ทิ้งรอยไหม้จนหินละลาย ซึ่งต่อมาหินละลายดังกล่าว ได้รับการตรวจสอบจากนักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเพนซ ิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ที่ลงความเห็นว่าหินได้รับความร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากแสงลึกลับแล้ว ที่นี่ยังมีชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่าเขาสามารถติดต่อกั บมนุษย์ต่างดาวได้มานานแล้ว ล่าสุดเมื่อปี 2002 เขาก็อ้างว่าเขาถูกลักพาตัวไปยังยางนอกโลกถึง 3 วัน ซึ่งงานนี้เขาไม่ได้อ้างลอยๆ นะ เขามีพยานหลักฐานอันน่าทึ่ง และยังไม่อาจพิสูจน์ค้านได้ว่าเป็นการทำปลอม หรือกุเรื่องขึ้นเสียด้วย

ชายผู้มีประสบการณ์พิเศษคนนี้ ชื่อ อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่า เขาอ้างว่าเขาเคยติดต่อ กับมนุษย์ต่างดาวมาหลายครั้ง มนุษย์ต่างดาวของ โอลิเวียร่า ไม่ใช่ทอล ดาร์ค แอนด์ แฮนซัม แต่เป็นทอล บลอนด์ ผิวขาวร่างสูง ผมบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าจาง โดยมีแก้วตาสีเหลืองอ่อนวางตามตัวตามแนวตั้งเหมือนตา แมว ฟังดูไม่น่าเกลียดเหมือนตัวอีทีโอลิเวียล่า บอกเราว่ามนุษย์ต่างดาวใช้สิ่งที่เรียกว่าแสงพลาสม่า เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารกับเขาทางโทรจิต

เหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 กันยายน 2002 คืนนั้น

โอลิเวียร่า หายตัวไปจากห้องนอน ทิ้งไว้แต่รอยไหม้รูปร่างคนนอนบนผู้ปูเตียงและบนฝ้าเ พดาน ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน อีก 3 วันต่อมมจู่ๆ เขาก็กลับมาอยู่ในห้องนอนนั้น และเขาอ้างตลอดว่า เวลาที่เขาหายไปนั้นเขาถูกนำตัวไปยังยานต่างดาว

โอลิเวียร่า บอกว่าเขารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยเขาได้รับการติดต่อ ทางโทรจิตผ่านแสงพลาสม่า ว่ามนุษย์ต่างดาวจะมานำตัวเขาไปในคืนดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุการณ์จะมีสัญญาณนำมาให้รู้ โดยจะเกิดฝนก้อนหินตกลงมา

ค่ำวันที่ 15 กันยายน 2002 เวลาประมาณ 19.13 น. เพื่อนบ้านใกล้เคียงของ โอลิเวียร่า ต้องประหลาดใจที่ได้ยินเสียงอะไร ร่วงกรูกราวอยู่บนหลังคา เมื่อออกมาดูพบว่าเป็นก้อนหินกลมๆ ก้อนเล็ก ๆ ตกลงมาจากท้องฟ้า หลายคนช่วยเก็บก้อนหิน บางคนก็ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วย

เขาเล่าว่า ในขณะที่เขานอนอ่านหนังสืออยู่ยนเตียงสักครู่ก็มีแสง สีม่วงสว่างไปทั้งห้อง แสงนั้นรวมตัวเข้าเหมือนฟองสบู่ ร่างของเขาลอยทะลุเพดาน รู้สึกเหมือนกระดูถูกยืดออก แต่ไม่มีความเจ็บปวด ครั้งลอยพ้นผ่านหลังคาบ้านไป ลำแสงสีม่วงก็พลิกร่างเขาให้ยืนขึ้น เมื่อไปถึงยานต่างดาว ( ซึ่งเขาไมได้บอกว่ามันเป็นอย่างไร ) เขาก็ถูกนำตัวเข้าไปในฟองอากาศ ใบใหญ่ ซึ่งมีผิวบางใส คล้ายๆ ว่าข้างในคงจะคล้ายๆ ห้องฆ่าเชื้อ ปรับพลังงานให้สมดุลย์อะไรทำนองนั้น จากนั้นมนุษย์ต่างดาวผมบลอนด์ร่างสูง ก็พาเขาขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของยาน ซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ที่นั่นมนุษย์ต่างดาวให้เขาดูจอภาพ อันเป็นภาพเกี่ยวกับโลก ระบบสุริยะ และกาแล็คซี่ของเรา มนุษย์ต่างดาวบอกว่า ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 ( พ.ศ. 2555 ) จะเกิดปรากฎการณ์ในอวกาศครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีผลกระทบไปทั้งจักรวาล ในวันนั้นแกแล็คซี่จะส่งแสงวาบเจิดจ้าออกมาก ดวงอาทิตย์ทุกดวงในแกแล็คซี่ จะสะท้องแสงนั้นไปยังดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัวมัน สิ่งมีชีวิตทั้งมวลอันมีดวงตาจะได้เห็นแสงเจิดจ้านี้ ทั่วหน้ากัน โลกของเราจะปั่นป่วน ด้วยพายุสุริยะทั้งแสงอาทิตย์ก็จะร้อนจัดขึ้น

คำทำนายของมนุษย์ต่างดาว ที่ว่าจะเกิดอาเพศขึ้นทั่วทั้งจักรวาลในวันนั้นจะเป็ นจริงหรือไม่ น่าแปลกที่ว่า วันที่ 22 ธันวาคม 2012 นั้นเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วย

อีกไม่กี่สิบปีเราคงจะได้เห็นปรากฎการณ์นั้น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบาง

ทั้งหมดนี้ ที่ฟังมานี้ ต่างต้องล้วนใช้วิจารณญาณ แต่ถ้าเป็นจริงขึ้นมาเมื่อไหร่ .......

สำหรับในบ้านเรา คุณหมอประสาน ต่างใจ เคยพูดเอาไว้ในงานเสวนา “พุทธศาสตร์กับอนาคตโลก” ถึงการละลายของน้ำแข็งบนยอดเขา จำนวน 19 ร้อยล้านตันว่าจะใช้เวลาอีกราว 5-7 ปี ซึ่งละลายหมดในปี ค.ศ.2012 เช่นเดียวกันกับปฏิทิน 22 ของชาวเผ่ามายา ได้ทำปฏิทินเอาไว้ที่ 5,000 ปี โดยแต่ละเดือนจะมี 20 วัน โดยเชื่อว่า โลกในวันสุดท้ายคือ 22 ธันวาคม ค.ศ.2012 พระเจ้าของพวกเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งนั่นเอง

อ่านจบแล้วอย่าลืมว่า นี่เป็นคำทำนายเท่านั้น ยังไม่มีใครรับรองได้ว่าจะเกิดได้จริงดั่งภาพนิมิตจา กนักทำนายเหล่านี้ ในวันที่ 21/12/2012 หรือไม่ มีแต่อนาคตเท่านั้นที่จะบอกได้ค่ะ : -)



ข้อมูลอ้างอิง

http://matrixinstitute.com/store/FUT...p-1-c-271.html

http://www.bibliotecapleyades.net/pr...ecia_mapas.htm

http://eclipse.gsfc.nasa.gov/SEmono/TSE2009/TSE2009.htm

www.starbridge.com.au

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=247742

http://www.youtube.com/v/nUI-LgZ2vlc&hl

http://www.youtube.com/v/nUI-LgZ2vlc&hl

http://www.indiadaily.com/editorial/1753.asp

การเมืองในมุมมองของนักศึกษา

สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของประเทศไทย เป็นอย่างไรนั้น คิดว่านักศึกษาทุกคนคงได้ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวเป็นอย่างดี อยากทราบว่าในมุมมองของท่านในฐานะนักศึกษา ท่านมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้?

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

งานสำหรับ Sec 1 และ Sec 2 วันพฤหัสบดี

ภายในรัศมี 5 กิโลเมตร จาก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ท่านคิดว่าธุรกิจอะไรมีแนวโน้มทำแล้วประสบผลสำเร็จมากที่สุด? โดยจะต้องมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

1. การวิเคราะห์ SWOT เพื่อหาธุรกิจที่จะทำ
2. ระบุทำเลและที่ตั้งให้ชัดเจนภายใต้สถานการณ์จริง พร้อมเหตุผลประกอบ
3. วิเคราะห์ STP
4. เสนอกลยุทธ์ 4P พร้อมให้เหตุผลประกอบ

ส่งทาง E-mail : jamnian54@gmail.com
โดย Sec 1 ให้ save file ว่า maejosec 1 กลุ่ม... (ส่งภายใน 12.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 20 ส.ค. 2552)
ส่วน Sec 2 ให้ save file ว่า maejosec 2 กลุ่ม... (ส่งภายใน 17.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 20 ส.ค. 2552)

ข้อสำคัญมากๆ : งานครั้งนี้เป็นการบูรณาการหลายกลยุทธหลายวิชาของการตลาด เพราะฉะนั้นคะแนนจะมากกว่างานทุกครั้งที่ผ่านมา

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

งานสำหรับ Sec 2 (เวลา 13.00 - 17.00) เท่านั้น

ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอกลยุทธ์ 4P ของ Cowboy Market โดยแต่ละกลยุทธ์ที่เสนอจะต้องอ้างอิงผลงานวิจัยที่ Sec ของท่านได้ศึกษามา + ผลงานวิจัยข้างล่างนี้ด้วย พิมพ์ส่งทาง E-Mail (Save File ชื่อ Cowboy กลุ่มที่ Sec 2) ภายในวันนี้ (13 ส.ค. 2552) ไม่เกินเวลา 16.00 น.

ผลงานวิจัย : พฤติกรรมของผู้ซื้อสินค้าที่ Cowboy Market

ข้อมลส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้กรอกแบบสอบถาม
จากการที่ได้ศึกษาผู้กรอกแบบสอบถามจำนวน 450 คน คิดเป็นหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
1.เพศ
เพศหญิง จำนวน 290 คน ร้อยละ 64.4
เพศชาย จำนวน 160 คน ร้อยละ 35.6

2.อายุ
อายุ ต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 231 คน ร้อยละ 51.3
อายุ 21 – 30 ปีจำนวน 188 คน ร้อยละ 41.8
อายุ 31 – 40 ปี จำนวน 22 คน ร้อยละ 4.9
อายุ 41 – 50 ปี จำนวน 6 คน ร้อยละ 1.3
อายุ 51 ปี ขึ้นไป จำนวน 3 คน ร้อยละ 0.7

3.การศึกษา
ระดับการศึกษาประถมศึกษาจำนวน 4 คน ร้อยละ 0.9
มัธยมศึกษา/ป.ว.ช จำนวน 34 คน ร้อยละ 7.6
อนุปริญญา/ป.ว.ส.จำนวน 19 คน ร้อยละ 4.2
ปริญญาตรีจำนวน 384 คน ร้อยละ 85.3
สูงกว่าปริญญาตรีจำนวน 9 คน ร้อยละ 2

4.อาชีพ
อาชีพของผู้มาซื้อสินค้า เจ้าของกิจการ จำนวน 4 คน ร้อยละ 0.9
ผู้จัดการหรือผู้บริหาร จำนวน 2 ค น ร้อยละ 0.4
ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 9 คน ร้อยละ 2
พนักงานบริษัท จำนวน 23 คน ร้อยละ 5.1
นักเรียน/นักศึกษา จำนวน 403 คน ร้อยละ 89.6
อื่นๆ จำนวน 9 คน ร้อยละ 2

5.รายได้เฉลี่ยต่อเดือน
มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า5000บาท จำนวน 269 คน ร้อยละ 59.8
ต่ำกว่า 5001-10000 บาท จำนวน163 คน ร้อยละ 36.2
ต่ำกว่า 10001-20000บาท จำนวน 14 คนร้อยละ 3.1
20001บาทขึ้นไป จำนวน 4 คน ร้อยละ 0.9

ข้อมูลส่วนที่2 พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้กรอกแบบสอบถาม
1.ท่านซื้อสินค้าที่ cowboy market ประเภทใดมากที่สุด
อาหาร/เครื่องดื่ม จำนวน 285 คน ร้อยละ 63.33
เสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย จำนวน 130 คน ร้อยละ 28.89
สินค้ากิ๊ฟช้อป/ของตกแต่งห้อง จำนวน 30 คน ร้อยละ 6.67
อื่นๆ จำนวน 5 คน ร้อยละ 1.11

2.เหตุผลที่ท่านตัดสินใจซื้อสินค้าที่cowboy market
ราคาเหมาะสม จำนวน 132 คน ร้อยละ 29.33
ใกล้ที่พัก จำนวน 140 คน ร้อยละ 31.12
สะดวก หาที่ซื้อง่าย จำนวน 132 คน ร้อยละ 29.33
คุณภาพของสินค้าอละสินค้ามีความหลากหลาย จำนวน 40 คน ร้อยละ 8.89
อื่นๆ จำนวน 6 คน ร้อยละ 1.33

3.ใครเป็นผู้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อสินค้า
ตนเอง จำนวน 251 คน ร้อยละ 55.8
เพื่อน จำนวน 166 คน ร้อยละ 36.8
คู่สมรส จำนวน 4 คน ร้อยละ 0.8
ร่วมกันตัดสินใจ จำนวน 28 คน ร้อยละ 6.2
อื่นๆ จำนวน 2 คน ร้อยละ 0.4

4.ความถี่ในการซื้อสินค้าแต่ละครั้ง
ทุกสัปดาห์ จำนวน 223 คน ร้อยละ 49.56
2-3 สัปดาห์ จำนวน 111 คน ร้อยละ 24.67
ทุก 1เดือน จำนวน 73 คน ร้อยละ 16.21
ทุก 1-2เดือน จำนวน 22 คน ร้อยละ 4.89
3เดือนขึ้นไป จำนวน 21 คน ร้อยละ 4.67

5.ค่าใช้จ่ายในการซื้อเฉลี่ย / ครั้ง
ต่ำกว่า 1000บาท จำนวน 136 คน ร้อยละ 30.22
101-200บาท จำนวน 211 คน ร้อยละ 46.89
201-300บาท จำนวน 43 คน ร้อยละ 9.56
301-5000บาท จำนวน 45 คน ร้อยละ 10
501 ขึ้นไป จำนวน 15 คน ร้อยละ 3.33

6.คุณมักจะซื้อสินค้าประเภทเดียวกันจากที่ไหน
ตลาดวโรวส จำนวน 64 คน ร้อยละ 14.22
ตาดนัดสันทราย จำนวน 47 คน ร้อยละ 10.44
ตลาดนัดหน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จำนวน 122 คน ร้อยละ 27.11
ตลาดนัดรมโชค จำนวน 147 คน ร้อยละ 32.67
ตลาดรินคำ จำนวน 49 คน ร้อยละ 10.89
อื่นๆ จำนวน 21 คน ร้อยละ 4.67

7.สินค้าที่คุณซื้อไปเป็นผู้ใช้เองหรือไม่
ใช่ จำนวน 394 คน ร้อยละ 87.56
ไม่ใช่ จำนวน 56 คน ร้อยละ 12.44

8.คุณเดินทางมาซื้อสินค้าที่coeboy market อย่างไร
เดิน จำนวน 133 คน ร้อยละ 29.55
จักรยาน จำนวน 31 คน ร้อยละ 6.89
จักรยานยนต์ จำนวน 273 คน ร้อยละ 60.67
รถยนต์ จำนวน 13 คน ร้อยละ 2.89

ข้อเสนอแนะ
- ดีพอใช้สะดวกในการซื้อ
- ไม่เคยมาเลย
- สินค้ามีราคาแพง
- พื้นที่แคบของน้อย ควรเพิ่มพื้นที่เยอะๆ
- สินค้าเยอะ แออัด
- ไม่มีที่จอดรถ
- ฝนตกน้ำขังพื้น
- สินค้าควรมีหลากหลายมากขึ้น
_ ทางเดินน้อยเกินไป

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

งานเฉพาะกลุ่มเรียนวันอังคาร Sec 4 เวลา 13.00-17.00 น.

ให้ทำดังนี้

1.ให้ทุกกลุ่มช่วยกันสรุปผลการวิจัยของทั้งห้อง(งานห้อง) พิมพ์ส่งทาง E-Mail (Save File ชื่อ Cowboy Sec 4)ภายในวันนี้ (11 ส.ค. 2552) ไม่เกินเวลา 15.00 น.

2.ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอกลยุทธ์ 4P ของ Cowboy Market โดยแต่ละกลยุทธ์ที่เสนอจะต้องอ้างอิงผลงานวิจัยข้อ 1 ประกอบด้วย (งานกลุ่ม) พิมพ์ส่งทาง E-Mail (Save File ชื่อ Cowboy กลุ่มที่ Sec 4) ภายในวันนี้ (11 ส.ค. 2552) ไม่เกินเวลา 18.00 น.

12 สิงหาคม วันแม่ปีนี้ ท่านบอกรักแม่ด้วยวิธีไหน?

หลากหลายอารมณ์ หลากหลายความรู้สึก หลากหลายวิธีการ สำหรับการบอกคำว่า "รัก" ให้กับคนคนคนหนึ่งที่เราเรียกว่า "แม่"

แล้วท่านหล่ะบอกรักแม่ด้วยวิธีไหน

งานเฉพาะกลุ่มเรียนวันอังคาร Sec 3 เวลา 09.00-12.00 น.

ให้แต่ละกลุ่ม ใช้ข้อมูลผลการวิจัยที่ได้ศึกษามา รวมทั้งผลการวิจัยของ Sec 4 ตามข้างล่างนี้ จัดทำกลยุทธ์ของ Cowboy Market ที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด

ผลวิจัยของ Sec 4 : การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้บริการตลาดคาวบอยมาร์เก็ต

ข้อมลส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้กรอกแบบสอบถาม
จากการที่ได้ศึกษาผู้กรอกแบบสอบถาม มีเพศหญิง จำนวนร้อยละ 68 เพศชายจำนวนร้อยละ 32 โดยมีระดับการศึกษาแยกเป็นระดับอุดมศึกษา ร้อยละ 78 จบการศึกษา ร้อยละ 14 และ อยู่ในระดับมัธยมปลาย ร้อยละ 8 โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ นักศึกษา ร้อยละ 82 อาชีพ อื่นๆ ร้อยละ 12 รับราชการ ร้อยละ 4 และธุรกิจ ส่วนตัว ร้อยละ 2ซึ่งมีรายได้อยู่ระหว่าง น้อยกว่า 3000 บาท คิดเป็นร้อยละ 40 รายได้ระหว่าง 3000-5000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28 รายได้ระหว่าง 5001-10000 บาท คิดเป็นร้อยละ 18 รายได้อื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 10 และ มากกว่า 10000 บาท คิดเป็นร้อยละ 4

ข้อมูลส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับประชากร เกี่ยวกับการใช้บริการตลาดคาวบอยมาร์เก็ต
- จากการสอบถามส่วนใหญ่รู้จักตลาดคาวบอยมาร์เก็ต จากที่เพื่อนแนะนำ คิดเป็นร้อยละ 74
จากแหล่งอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 12 หนังสือพิมพ์แม่โจ้ คันทรีนิวส์ คิดเป็นร้อยละ 10 และจากวิทยุ FM 95.50 คิดแป็นร้อยละ 2 และเวปไซต์ คิดเป็นร้อยละ 2
- ความถี่ในการมาใช้บริการตลาดนักคาวบอยมาร์เก็ต ต่อเดือน จำนวน 1-2 ครั้งต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 44 จำนวน 3-4 ครั้งต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 40 จำนวน 5-6 ครั้งต่อเดือน คิดเป็นร้อย
ละ 8 และจำนวน 7-8 ครั้งต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 8
-สินค้าและบริการที่ผู้บริโภค เลือกใช้บริการ
สินค้าประเภทอาหาร คิดเป็นร้อยละ 94 สินค้าประเภท เสื้อผ้า คิดเป็นร้อยละ 4 และสินค้าประเภท เครื่องประดับคิดเป็นร้อยละ 2 ในส่วนของบริการ ใช้บริการในการซื้อตั๋ว คิดเป็นร้อยละ 62 ใช้บริการส่วนของการเช่าหนังสือ คิดเป็นร้อยละ 32 และใช้บริการส่วนอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 4 และใช้บริการนวด ฝ่าเท้า คิดเป็นร้อยละ 2
-เวลาที่ผู้บริโภคมาซื้อสินค้าและบริการตลาดนัดคาวบอยมาร์เก็ตมาใช้บริการในเวลา 17.01-19.00 น คิดเป็นร้อยละ 78 มาใช้บริการในเวลา 19.01-21.00 น คิดเป็นร้อยละ 20 และเวลา 15.00-17.00 น คิดเป็นร้อยละ 2
-ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการในแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายจำนวน 101-300 บาท คิดเป็นร้อยละ 64 ค่าใช้จ่ายจำนวน น้อยกว่า 100 บาท คิดเป็นร้อยละ 30 ค่าใช้จ่ายจำนวนมากกว่า 500 บาท คิดเป็นร้อยละ 4 ไม่มีค่าใช้จ่าย คิดเป็นร้อยละ 2
-ช่องทางในการเดินทางมาซื้อสินค้า และ บริการ ที่ตลดนัดคาวบอยมาร์เก็ต เดินทางโดย รถจักยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 60 โดยการเดิน คิดเป็นร้อยล 26 โดยรถจักยาน คิดเป็นร้อยละ 10 และรถยนต์ คิดเป็นร้อยละ

ข้อมูลส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
จากการที่ผู้บริโภคให้ข้อเสนอแนะมาต้องการให้มีการประชาสัมพันธ์เพิ่มขิ้นในวันจันทร์ และขยายเนื้อที่ในการขายให้กว้างพร้อมกับปรับปรุงทางสัญจรให้สะดวกมากขึ้น และมีการจัดการจราจรให้เป็นระเบียบมีที่จดรถที่เพียงพอ

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อยากให้นักศึกษาทุกคนได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง อยากให้รู้จัก เธอคนนี้เป็นใคร...?












เธอคนนั้นไง.. ใครคือคนนั้น? รู้หรือยังครับ? อย่าลืมรักท่านให้มากๆนะครับ ไม่มีใครรักเราเท่ากับแม่ของเราอีกแล้ว
จะถึงวันแม่อยู่แล้ว อย่าลืมทำอะไรให้แม่บ้างนะครับ บอกรักท่านบ้างก็ยังดี อย่าบอกรักแต่แฟน
ใคร จะน่ารัก กว่านี้ คงไม่มีอีกแล้วในโลก